ผู้ต้องขังติดเชื้อโควิด "ตาสีฟ้า" หลังกินยาฟาวิพิราเวียร์ หมอชี้เป็นเรื่องปกติ
จากกรณีโลกออนไลน์แชร์โพสต์ของคุณหมอท่านหนึ่งถึงอาการตาสีฟ้าของผู้ต้องขังหลังได้รับยาฟาวิพิราเวียร์ในการรักษาอาการโควิด-19 ล่าสุดวันนี้ทางคุณหมอได้ชี้แจงแล้วว่า เป็นคุณสมบัติของยาฟาวิพิราเวียร์ที่ทำให้เรืองแสง ไม่ส่งผลต่อดวงตาและหายได้เองเมื่อหยุดทานยา
รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้โพสต์เรื่องราวผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวเกี่ยวกับโควิดเรือนจำ ระบุว่า พบผู้ต้องขังติดเชื้อโควิด มีอาการ "ตาสีฟ้า" คล้ายสีม่วงอมน้ำเงิน หลังรับประทานยาฟาวิพิราเวียร์ในการรักษา โดยทางจักษุแพทย์ โรงพยาบาลศิริราช กำลังตรวจสอบสาเหตุที่เกิดขึ้น
วันที่สามของการไปร่วมราวด์วอร์ดกับทีมราชทัณฑ์ ทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทาง ทีมงานที่นั่นเริ่มแข็งแกร่งผิดหูผิดตา คาดว่าดีเดย์ที่วางไว้คือวันอังคารที่ 25 พ.ค. ซึ่งจะมีการส่งทีมแพทย์และพยาบาลอาสาสมัครจากภายนอกเข้าไปเสริมโดยมีทีมโควิดศิริราชเป็นพี่เลี้ยงหลัก จะทำให้สามารถรองรับผู้ป่วยโควิดอาการรุนแรงปานกลางได้ 80 เตียง อาการรุนแรงมาก 24 เตียง และ อาการวิกฤต 8 เตียง และถ้ากรณีเหลือบ่ากว่าแรงจริงๆ จึงจะส่งต่อผู้ป่วยออกมารักษาในโรงพยาบาลที่มีศักยภาพทางการแพทย์ขั้นสูง แพทย์และพยาบาลที่สามารถดูแลผู้ป่วยวิกฤตและกึ่งวิกฤตได้ รีบสมัครกันมาผ่านเวบไซต์สมาคมอุรเวชช์ฯ งานนี้ไม่ยุ่งยากเหมือนจองคิวฉีดวัคซีนโควิดของรัฐบาล ถ้ามัวช้าวันที่อยากไปช่วยงานอาจถูกจองหมดได้
ได้พบฟิล์มผู้ป่วยปอดอักเสบโควิดน่าสนใจหนึ่งราย เตรียมฟิล์มให้โดยคุณหมอเอกซเรย์คนเดียวของรพ.ราชทัณฑ์ ใครตอบได้ทาง FB นี้มีรางวัล (ให้ไปช่วยงานรพ.ราชทัณฑ์จนกว่าวิกฤตโควิดในทัณฑสถานจะสงบ)
นอกจากนี้ผู้ต้องโทษชายจำนวนมากที่รักษาด้วยยาฟาวิพิราเวียร์ แจ้งว่าสีของตาขาวเปลี่ยนไปเป็นสีม่วงอมน้ำเงิน กำลังจะหาทางถ่ายรูปจริงมาให้ดูกัน ลองดูรูปที่มีรายงานจากประเทศอินเดียค้นได้ในยูทูบ โดยที่ยังไม่มีรายงานในวารสารทางการแพทย์ใดมาก่อน ทางหมอตาศิริราชกำลังจะไปค้นหาคำตอบร่วมกับหมอตาของรพ.ราชทัณฑ์ ผลเป็นอย่างไรแล้วจะมาแจ้งให้ทราบ ระหว่างนี้ให้พวกเราช่วยกันมองหาความผิดปกติที่น่าสนใจนี้ด้วย
วันที่ 24 พฤษภาคม ที่ รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ให้สัมภาษณ์ถึงการพบผู้ต้องโทษชายจำนวนมากที่รักษาด้วยยาฟาวิพิราเวียร์ แล้วพบสีของตาขาวเปลี่ยนไปเป็นสีม่วงอมน้ำเงิน ว่า รับแจ้งจากโรงพยาบาล(รพ.) ราชทัณฑ์ ถึงข้อสังเกตดังกล่าว และได้ให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่รพ.ศิริราชช่วยกันพิจารณา ได้ยืนยันไปแล้วไม่เป็นเรื่องน่ากังวล
“เป็นคุณสมบัติของยาฟาวิพิราเวียร์ สันนิษฐานว่าตัวยาเองมีคุณสมบัติเรืองแสง โดยจะไปสะสมได้ที่กระจกตา เล็บ และผิวหนัง แต่ไม่ทำให้อวัยวะนั้นทำงานผิดปกติ และหายได้เองเมื่อหยุดยา ไม่มีผลข้างเคียง เหมือนเรากินแครอทจำนวนมากตาก็อาจจะออกเหลืองๆ ได้ อย่างไรก็ตามในผู้ป่วยรายอื่นๆ ก่อนหน้านี้ยังไม่เคยได้รับรายงานลักษณะดังกล่าว แต่มีในรายงานที่ประเทศอินเดียและตุรกีที่พบลักษณะที่ว่าเช่นกัน แต่ทั้งหมดที่รายงานไม่มีอันตรายใดๆ” รศ.นพ.นิธิพัฒน์ กล่าว
ข้อมูลจาก นิธิพัฒน์ เจียรกุล , มติชน
--------------------
เกาะติดสถานการณ์โควิด-19 ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ
คลิกเลย!! >>> รู้ทันกันโควิด <<< หรือ กด *301*35# โทรออก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง