BAFSยอดเติมน้ำมันพุ่ง ธุรกิจการบินฟื้นดันQ3
#BAFS #ทันหุ้น – BAFS คาดปริมาณเติมน้ำมันเดือนเมษายน 2565 จะเติบโต 15.2% หลังมาตรการผ่อนคลายเดินทางเข้าไทยตั้งแต่ 1 เมษายน สอดคล้องกับAOT รายงานจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยเพิ่มขึ้นเฉลี่ยต่อวัน 65.97% จากเดือนมีนาคม 2565 ขณะที่ยังคงเป้าการเติมน้ำมันปี 2565 โต 119% คาดธุรกิจการบินเริ่มกลับมาเติบโตอย่างมากตั้งแต่ไตรมาส 3/2565 ด้านโบรกมองผลงานฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดใน 2 ปี เคาะราคาเป้าหมาย 35 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT เปิดเผยว่า ภายหลังจากศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ได้ผ่อนคลายมาตรการการเดินทางเข้าราชอาณาจักร โดยยกเลิกการตรวจ RT-PCR ก่อนเดินทางเข้าประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565 เป็นต้นมา ส่งผลให้มีจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศเดินทางเข้าประเทศไทยเฉลี่ยวันละ 11,623 คน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคมที่มีจำนวนผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศเฉลี่ยวันละ 7,003 คน หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 65.97%
ในส่วนของเที่ยวบินขาเข้าระหว่างประเทศมีจำนวนเฉลี่ยวันละ 141 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคมที่มีจำนวนเที่ยวบินเฉลี่ยวันละ 137 เที่ยวบิน หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 2.92% ทั้งนี้คาดว่าจากนี้ไปจะมีผู้โดยสารระหว่างประเทศเดินทางเข้าประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
*ปริมาณเติมน้ำมันฟื้น
ม.ล.ณัฐสิทธิ์ ดิศกุล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BAFS เปิดเผยว่า ปัจจัยบวกดังกล่าวส่งผลให้ปริมาณการเติมน้ำมันเติบโต โดยคาดการณ์ว่าในเดือนเมษายน 2565 ปริมาณน้ำมันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จะเพิ่มขึ้น 15.2% จากเดือนก่อนหน้า จากการผ่อนคลายมาตรการการเดินทางเข้าประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ที่ผ่านมา
และมีปัจจัยเสริมของประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชีย ที่ผ่อนคลายมาตรการคัดกรองผู้เดินทางให้ผู้ที่ได้รับวัคซีนครบโดสสามารถเดินทางได้โดยไม่ต้องกักตัว ได้แก่ เกาหลีใต้ มาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม และ อินโดนีเซีย (เฉพาะบาหลี) จึงส่งผลให้ปริมาณเที่ยวบินเพิ่มขึ้นทำให้ปริมาณเติมน้ำมันเติบโตเพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกัน ถึงแม้ว่าขณะนี้จะเป็นช่วงเปลี่ยนฤดูกาลเข้าช่วง Summer ที่โดยปกติการเดินทางจะลดลงก็ตาม
*ย้ำเป้าปีนี้โต 119%
นอกจากนี้ด้วยสถานการณ์ในปัจจุบันเป็นไปตามแนวโน้มการคาดการณ์ไว้แล้ว จึงยังคงเป้าการเติบโตไว้ที่ 119% เพราะเป้าหมายดังกล่าวได้คาดการณ์รวมปัจจัยการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ในปี 2565 ไว้แล้ว อีกทั้งการแพร่ระบาดของเชื้อโรคที่มีทิศทางที่ดีขึ้น จึงคาดว่าธุรกิจการบินจะเริ่มกลับมาเติบโตอย่างมากตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 ของปี 2565 แม้ในช่วงเดือนที่ผ่านมามีหลายปัจจัยเป็นปัจจัยลบที่กระทบอุตสาหกรรมการบิน เช่น สถานการณ์โควิดที่หลายประเทศยังผ่อนปรนน้อยกว่าคาดการณ์, สภาวะสงครามของรัสเซีย-ยูเครนและวิกฤติราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น
ม.ล.ณัฐสิทธิ์ กล่าวก่อนหน้านี้ว่า ได้เดินหน้าธุรกิจรถไฟฟ้าได้ทำข้อตกลงร่วมกับ ITURRI ผู้นำการผลิตรถเติมน้ำมันอากาศยานระดับโลก จากประเทศสเปน ในการผลิตรถเติมน้ำมันอากาศยานขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า (BEV : Battery Electric Vehicle) ซึ่งบริษัทมีเป้าหมายที่จะประกอบรถสำหรับเติมน้ำมันอากาศยานใช้ในกลุ่มบริษัท และยังมีแผนที่จะขยายไปตลาดเพื่อนบ้าน โดยปัจจุบันใน Fleet รถของบริษัทมีอยู่ประมาณ 80 คัน ให้บริการมากที่สุดในภูมิภาคอาเซียน โดยมีสนามบินหลักที่ให้บริการ คือ ดอนเมือง และสุวรรณภูมิ คาดว่าจะมีการเปลี่ยนไปใช้งานรถที่เป็น BEV ได้ครบในระยะเวลา 5 ปี
*ผลงานพ้นจุดต่ำสุด
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) ระบุถึง BAFS คาดธุรกิจเติมน้ำมันเชื้อเพลิงในปี 2565 (52% ของรายได้รวมปี 2564) ผลการดำเนินงานที่ฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดใน 2 ปีที่ผ่านมา เพราะคาดว่าจำนวนเครื่องบินจะมาเติมน้ำมันเชื้อเพลิงกับบริษัท (-40% ในปี 2564) หลังจากผ่านการล็อกดาวน์มาจะฟื้นตัวขึ้นสู่ราว 50% ต่อช่วงก่อนเกิดโควิด-19 คงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐาน ที่ 35 บาท คำนวณด้วยวิธีคิดลดเงินสด