BAFSลั่นเติมน้ำมันตามเป้า ดีลซื้อโรงไฟฟ้าเติมพอร์ต

#BAFS #ทันหุ้น – BAFS ยังมั่นใจปี 2566 ปริมาณเติมน้ำมัน 4.2 พันล้านลิตร ชี้รัฐให้ความเชื่อมั่นการท่องเที่ยว จะดีต่อเนื่องไตรมาส 4/2566 เผย 9 เดือน ทำได้แล้วกว่า 3.15 พันล้านลิตร ธุรกิจขนส่งน้ำมันผ่านท่อ ทำได้ดี ปีนี้ล็อกเป้าที่ 750 ล้านลิตร เผยปีหน้าจะส่งมอบรถเติมน้ำมันอากาศยานเป็นระบบ ไฟฟ้า 7 คันพร้อมอุปกรณ์โกยรายได้เข้าพอร์ต ลุยศึกษาธุรกิจไบโอเจทต่อเนื่อง ย้ำมีดีลซื้อกิจการ โรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนคาดสรุปต้นปีหน้า

ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท บริการเชื้อเพลิง การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BAFS เปิดเผยว่า  บริษัทยังคงเป้าปริมาณเติมน้ำมันอากาศยานปีนี้ที่ 4,200 ล้านลิตร โดย 9 เดือนทำได้แล้ว 3,153 ล้านลิตร หรือคิดเป็น 75% ของเป้าหมายทั้งปี แม้ว่าปัจจุบันมีสถานการณ์ที่จะมากระทบการท่องเที่ยว แต่เชื่อว่าน่าจะเป็นปัจจัยกดดันระยะสั้น และคาดว่าไตรมาส 4/2566 น่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินหน้าทางเข้ามาท่องเที่ยว ดังนั้นเชื่อว่าเป้าหมายปริมาณเติมน้ำมันที่ตั้งไว้น่าจะทำได้ตามเป้า ทั้งนี้ในส่วนจำนวนนักท่องเที่ยวปัจจุบันเติบโตขึ้นทั้งในส่วนของท่าอากาศยานดอนเมืองและท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

*ขนส่งน้ำมันเติบโตดี

ส่วนธุรกิจให้บริการขนส่งน้ำมันทางท่อภาคเหนือที่ดำเนินการผ่านบริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด (FPT) ทั้งปี 2566 ตั้งเป้าที่ 750 ล้านลิตร เพิ่มขึ้นจากเป้าหมายเดิมที่ 600 ล้านลิตรเรื่องจากเติบโตได้ดีต่อเนื่อง หนุนจากการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และการเดินทางของนักท่องเที่ยวปัจจุบันมีการขนส่งน้ำมันไปแล้วกกว่า 70% ของเป้าหมายทั้งปี

ส่วนธุรกิจโรงไฟฟ้า ปัจจุบันบริษัทมีการศึกษาซื้อกิจการ(M&A) โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน คาดว่าจะเห็นความชัดเชนในช่วงต้นปี 2567 เพื่อมาสนับสนุนพอร์ตพลังงานของบริษัทที่มีกำลังการผลิตไฟฟ้ากว่า 49.4 เมกวัตต์ ดังนั้นคาดว่าปีหน้าจะเห็นกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ พร้อมกันนี้ บริษัทยังคงเดินหน้าตามแผนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ในปี 2570 เตรียมนำร่องร่วมลงทุนธุรกิจโซลาร์ฟาร์ม พลังงานทดแทนจากแสงอาทิตย์คาดว่าจะมีความชัดเจนภายในปี 2567

นอกจากนี้ บริษัท บาฟส์ อินเทค ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ เพื่อจัดทำโครงการรถเติมน้ำมันอากาศยานขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า (BEV : Battery Electric Vehicle) หรือ EV Hydrant Dispenser ในประเทศไทยและอาเซียน เพื่อดำเนินการผลิตรถเติมน้ำมันที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพราะไม่มีการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์จากเครื่องยนต์ โดยปัจจุบันมีออเดอร์เข้ามาแล้ว คาดว่าปีหน้าจะส่งมอบรถได้กว่า 7 คัน ทั้งในไทยและอาเซียน รวมไปถึงการจำหน่ายอุปกรณ์อื่นๆ ดังนั้นภายในปีหน้าคาดว่าธุรกิจนี้จะสร้างรายได้ให้แก่บริษัทกว่า 100 ล้านบาท รวมไปถึงยังเดินหน้าในการศึกษาโครงการไบโอเจทด้วย

*กำไรครึ่งปีหลังฟื้นตัว

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) ระบุถึง BAFS ว่า คาดกําไรฟื้นตัวต่อเนื่องในครึ่งหลังปี 2566 ณ งวด 8 เดือนของปี 2566 พบว่าปริมาณจราจรทางอากาศยานที่สนามบินสุวรรณ ภูมิและดอนเมืองรวมกันฟื้นตัวไปแตะ 74% ของงวด 8 เดือนปี 2019 แล้ว โดยคาดว่าปริมาณการเติมเชื้อเพลิงอากาศยานของบริษัทในปี 2566 จะแตะ 75% ของ ช่วงก่อนเกิด COVID-19 ซึ่งสูงกว่าเป้าของผู้บริหารที่ 68% อยู่เล็กน้อย (ปริมาณการ เติมเชื้อเพลิงงวด 8 เดือนปี 2566 แตะ 62% ต่อประมาณการของฝ่ายวิจัย และ 67% ต่อ เป้าหมายผู้บริหาร) โดย upside ที่อาจเกิดขึ้นจากเป้าหมายของบริษัทหลัก ๆ จะขึ้นอยู่ กับจังหวะการเร่งตัวของการฟื้นตัวด้านเที่ยวบินระยะไกล (Long-haul) จากยุโรปและ จีน (คิดเป็น 22% และ 17% ของปริมาณการเติมเชื้อเพลิงของ BAFS ในปี 2019) 

เมื่อ อิงข้อมูลจาก OAG ในเดือน สิงหาคม 2566  ระบุว่าสายการบินจีนยังประสบปัญหาในการ เปิดเที่ยวบินสำหรับเส้นทางบินจีน-ไทยให้กลับสู่ระดับช่วงก่อนเกิด COVID-19 แต่คาดว่าตลาดหลักอื่น ๆ เช่น อินเดีย ตะวันออกกลาง และเกาหลีน่าจะเข้ามาเติมเต็ม ส่วนที่หายไปได้บางส่วน ด้วยกําไรที่คาดฟื้นตัวเด่นของธุรกิจเติมน้ำมัน เสถียรภาพของธุรกิจโรงไฟฟ้า และ การรับรู้ขาดทุนจาก NFPT น้อยลง จึงคาดว่ากําไรจากการดำเนินงานจะอยู่ที่ 184 ล้านบาทในปี 2566 จึงคงคำแนะนำ "ซื้อ" มูลค่าพื้นฐาน 38 บาท