รีเซต

BAFS ยอดเติมน้ำมันพุ่ง Q3 รายได้ทะยาน 26%

BAFS ยอดเติมน้ำมันพุ่ง Q3 รายได้ทะยาน 26%
ทันหุ้น
13 พฤศจิกายน 2566 ( 14:31 )
39

#BAFS #ทันหุ้น –BAFS อานิสงส์ท่องเที่ยวฟื้น หนุนปริมาณเติมน้ำมันอากาศยานพุ่ง ธุรกิจพลังงานเด่น ดันผลงานไตรมาส 3/2566 มีรายได้รวม 733.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% จากปีก่อน ส่วน 9 เดือนแรก กลุ่มบริษัทมีรายได้รวม 2,271.1 ล้านบาท กำไรสุทธิในส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทจำนวน 59.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 125%

 

ม.ล.ณัฐสิทธิ์ ดิศกุล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BAFS เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานของ BAFS Group เติบโตอย่างต่อเนื่องจากการขับเคลื่อนของกลุ่มธุรกิจบริการพลังงาน โดยผลประกอบการไตรมาส 3/2566 มีรายได้รวมทั้งสิ้น 733.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ตามการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวที่สอดคล้องกับการฟื้นตัวของภาคเศรษฐกิจรวมของประเทศ

 

โดยเป็นรายได้จากธุรกิจหลักในกลุ่มธุรกิจการบิน (Aviation) รวม 587.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36% โดยรายได้ส่วนใหญ่มาจากปริมาณเติมน้ำมันอากาศยานที่เพิ่มขึ้นถึง 31% เช่นเดียวกับกลุ่มธุรกิจ Utilities ที่มีรายได้รวม 87.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% จากปริมาณขนส่งน้ำมันรวมทุกผลิตภัณฑ์ของโครงการระบบท่อส่งน้ำมันภาคเหนือ (NFPT) ที่เพิ่มขึ้น 66% ในขณะที่กลุ่มธุรกิจ Power มีรายได้จากการขายไฟฟ้าและอื่นๆ จำนวน 74.3 ล้านบาท ซึ่งปรับลดลง 3% จากสัญญาเงินอุดหนุนส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้า (Adder) ของบริษัทย่อยแห่งหนึ่งได้สิ้นสุดลงเมื่อเดือนมิถุนายน

 

*น้ำมันอากาศยานฟื้น

สำหรับภาพรวมผลประกอบการ 9 เดือนแรก กลุ่มบริษัทมีรายได้รวม 2,271.1 ล้านบาท กำไรสุทธิในส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทจำนวน 59.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 125% จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยเป็นรายได้จากกลุ่มธุรกิจ Aviation 1,767.5 ล้านบาท ที่เพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของปริมาณน้ำมันอากาศยานและจำนวนเที่ยวบินที่กลุ่มบริษัทให้บริการ

 

โดยในช่วง 9 เดือนของปีนี้ ปริมาณน้ำมันอากาศยานฟื้นตัวได้ 69% ของช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด 19 สำหรับกลุ่มธุรกิจ Utilities มีรายได้รวมจำนวน 270.1 ล้านบาท จากค่าบริการขนส่งน้ำมันภาคพื้นดินและค่าบริการจัดเก็บน้ำมันของปริมาณน้ำมันรวมทุกผลิตภัณฑ์ของโครงการ NFPT ที่เติบโตขึ้น 91% เนื่องจากการทำการตลาดเชิงรุกกับลูกค้าบริษัทน้ำมัน และกลุ่มธุรกิจ Power มีรายได้รวม 306.3 ล้านบาท จากการขายไฟฟ้าและอื่นๆ และจากเงินปันผลจากการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น

 

*รุกธุรกิจพลังงาน

นอกจากนี้ BAFS Group ได้ขยายการลงทุนเพื่อสร้างสมดุลทางโครงสร้างธุรกิจและสร้างการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานสู่พลังงานทดแทน โดยกลุ่มบริษัทได้จัดตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่ ภายใต้ชื่อ BAFS X Mongolia LLC ในประเทศมองโกเลีย ซึ่งมีทุนจดทะเบียน 3.6 ล้านบาท เพื่อประกอบธุรกิจโดยมีรายได้จากการถือหุ้นในบริษัทอื่นเป็นหลัก ทั้งธุรกิจพลังงานทดแทน ธุรกิจการจัดเก็บน้ำมันและท่อขนส่งน้ำมันและธุรกิจนำเข้าและส่งออกสินค้าและบริการ

 

โดยในระยะแรกกลุ่มบริษัทมีแผนร่วมลงทุนในธุรกิจผลิตไฟฟ้าและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งคาดว่าจะให้ข้อมูลความชัดเจนของการลงทุนในโครงการดังกล่าวได้ปี 2567 และได้เข้าร่วมลงทุนในบริษัท สุราษฎร์ อีโค พาวเวอร์ จำกัด โดยมีสัดส่วนการถือหุ้น 30% เพื่อลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานขยะที่มีกำลังการผลิต 9.9 เมกะวัตต์ โดยคาดว่าจะเริ่มเปิดดำเนินการได้ในปี 2570

 

*ลุยท่อส่งน้ำมัน

อย่างไรก็ดี กลุ่มบริษัท มุ่งพัฒนาธุรกิจบริการพลังงาน เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ และตระหนักถึงความสำคัญเรื่องการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เร่งผลักดันโครงการขนส่งน้ำมันทางระบบท่อภาคเหนือ (NFPT)

 

ปัจจุบันกลุ่มบริษัทกำลังอยู่ระหว่างการเจรจาเตรียมโครงการสร้างท่อขนส่งน้ำมันเชื่อมระหว่างเส้นทางสระบุรี-อ่างทอง (link line) เพื่อเชื่อมโยงโครงข่ายท่อขนส่งน้ำมันระหว่างภาคตะวันออกกับภาคเหนือ ซึ่งจะช่วยทำให้โครงข่ายระบบท่อส่งน้ำมันของประเทศไทยมีความมั่นคงด้านพลังงานมากขึ้น และยังลดการปล่อยมลพิษและก๊าซเรือนกระจกอันเกิดจากรถขนส่งน้ำมัน ร่วมยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของประเทศ พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง