คลังเล็ง "เก็บภาษีขายหุ้น" คาดโกยรายได้เพิ่ม 1.6 หมื่นล้านต่อปี
NewsReporter
30 พฤศจิกายน 2565 ( 13:38 )
88
ข่าวการเงิน "เก็บภาษีขายหุ้น" คาดโกยรายได้เพิ่ม 1.6 หมื่นล้านต่อปี ครม.มีมติเห็นชอบ จัดเก็บภาษีขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เรียบร้อยแล้ว โดยการจัดเก็บภาษีจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ของเดือนที่ 4 นับจากกฎหมายเรื่องนี้มีผลบังคับใช้แล้ว ด้าน รมว.คลัง เชื่อผู้ลงทุนรายย่อยได้รับผลกระทบน้อย และ ตลาดหลักทรัพย์ไทย อยู่ในระดับที่แข่งขันได้ คาดมีเงินเข้าคลังประมาณ 16,000 ล้านบาท ต่อปี
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราภาษีธุรกิจเฉพาะและกำหนดกิจการที่ได้รับยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะ (ฉบับที่…) พ.ศ. … หรือการจัดเก็บภาษีธุรกิจเฉพาะจากการขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ แล้วเมื่อวันที่ 29 พ.ย. ที่ผ่านมา
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง อธิบายไว้ว่า ขั้นตอนหลังจากนี้จะส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเป็นผู้พิจารณาต่อ โดยยืนยันนักลงทุนรายย่อยจะได้รับผลกระทบไม่มากเท่ากับนักลงทุนรายใหญ่ ซึ่งต้องไปดูตัวนักลงทุนอีกครั้ง เพราะมีหลายประเภท เช่น นักลงทุนต่างชาติ นักลงทุนสถาบัน
ทั้งนี้ ในรายละเอียดของการจัดเก็บภาษีขายหุ้น จะจัดเก็บในอัตราครึ่งหนึ่ง หรือ 0.055% รวมกับภาษีท้องถิ่นในปีแรก หลังจากนั้นในปีต่อๆ ไป จะจัดเก็บในอัตรา 0.11% เมื่อรวมภาษีท้องถิ่นแล้ว
ซึ่งการจัดเก็บภาษีขายหุ้นในครั้งนี้ จะทำให้รายได้ภาษีธุรกิจเฉพาะเพิ่มขึ้นในปีแรกของการจัดเก็บ 8,000 ล้านบาท และในปีต่อๆ ไป ของการจัดเก็บปีละ 16,000 ล้านบาท
โดยจะมีผลใช้บังคับในวันที่ 1 ของเดือนที่ 4 นับจากเดือนที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพื่อให้ผู้ขายหลักทรัพย์และบริษัทหลักทรัพย์ หรือโบรกเกอร์มีเวลาปรับตัว 3 เดือน ในส่วนอัตรา 0.055% มีผลจนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 66 และในส่วนอัตรา 0.11% มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 67 เป็นต้นไป
อย่างไรก็ตาม ให้คงการยกเว้นภาษีให้แก่ ผู้ดูแลสภาพคล่อง กองทุนบำนาญซึ่งมีมูลค่าการซื้อขายรวมกันไม่เกิน 15% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด โดยกองทุนบำนาญ คือ กองทุนที่ผู้จ่ายเงินสมทบหรือเงินสะสมเข้ากองทุน สามารถหักลดหย่อนเงินสะสมและเงินสมทบดังกล่าว ในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินหรือผลประโยชน์อื่นที่ได้รับจากกองทุนเมื่อเกษียณอายุ และกองทุนรวมที่ขายหน่วยลงทุนแก่กองทุนบำนาญ เพื่อไม่ให้การจัดเก็บภาษีส่งผลกระทบต่อการสร้างสภาพคล่องของหลักทรัพย์และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ใน ตลท. รวมทั้งการออมเพื่อการเกษียณอายุ
นอกจากนี้ ยังมีมุมมองเพิ่มเติมคือ จะเพิ่มความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษีและลดความเหลื่อมล้ำในการกระจายรายได้ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ใน ตลท. และการออมเพื่อการเกษียณอายุ แต่ยอมรับว่า อาจส่งผลให้ต้นทุนการทำธุรกรรมใน ตลท. ของไทย สูงขึ้นจาก 0.17% เป็น 0.22% แต่ยังอยู่ในระดับที่แข่งขันได้ โดยต่ำกว่าของมาเลเซีย ซึ่งอยู่ที่ 0.29% และของฮ่องกง ที่อยู่ที่ 0.38%
ข้อมูล กรมประชาสัมพันธ์เกาะติดสถานการณ์โควิด-19 ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ
--------------------
เกาะติดสถานการณ์โควิด-19 ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ
คลิกเลย!! >>> รู้ทันกันโควิด <<< หรือ กด *301*35# โทรออก
ทุกประเด็นร้อนข่าวสาร สาระ ทันเหตุการณ์ พูดคุยกันได้ 24 ชม.
คลิกเลย >>> TrueID Community <<<