รีเซต

BJC ปักธงไตรมาส 4 คึกคัก สินค้าใหม่–เทศกาลหนุน

BJC ปักธงไตรมาส 4 คึกคัก สินค้าใหม่–เทศกาลหนุน
ทันหุ้น
25 พฤศจิกายน 2568 ( 02:00 )

นางสาวอัญชลี  ริมวิริยะทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC เปิดเผยว่า แนวโน้มการเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิม (SSSG) ในไตรมาส 4/2568 คาดการณ์ว่าจะดีขึ้นกว่าไตรมาส 3/2568 เล็กน้อย ซึ่งบริษัทมีความหวังสูงต่อยอดขายช่วง เทศกาลสิ้นปีเดือนธันวาคม โดยเฉพาะจากกลุ่มสินค้าใหม่ เช่น กลุ่มแคมปิ้ง รวมถึงสินค้าเทศกาล คริสต์มาส, ของขวัญ และของเล่นเด็ก

โดยมีสินค้าใหม่ราว 50% ที่ทำผลงานได้ดีและเติบโตประมาณ 20% ในเดือนตุลาคมและเพิ่มขึ้นในเดือนพฤศจิกายน ประกอบกับจำนวนนักท่องเที่ยวเริ่มกลับมา ทำให้คาดว่าไตรมาส 4/2568 ที่เป็นช่วงไฮซีซันจะช่วยผลักดันยอดขายได้ อีกทั้งจะมีการเปิดสาขาขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังตั้งเป้าหมายอัตราการเช่าพื้นที่ทั้งปีไว้ที่ 92% ซึ่งอัตราการเช่าพื้นที่ในเดือนตุลาคม 2568 แตะที่ 91% แล้ว

*ยอดขายเติบโตทรงตัว

ดังนั้นจึงคาดการณ์ว่าแนวโน้มผลประกอบการปี 2568 คาดยอดขายรวมจะเติบโตแบบทรงตัว เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าจะดีขึ้นอยู่ในระดับ 15-20% YoY โดยแบ่งตามธุรกิจได้แก่ 1.ธุรกิจ Packaging คาดว่าจะเติบโตในระดับต่ำจนถึงติดลบ ซึ่งยอดขายหลักๆ มาจากกลุ่มบรรจุภัณฑ์แก้วที่เติบโตอยู่ในตัวเลขหลักเดียวระดับกลางส่วนบรรจุภัณฑ์กระป๋องอาจลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีก่อน แต่ภาพรวมครึ่งหลังของปีนี้ดีขึ้นมากเทียบกับครึ่งปีแรก เพราะมีออเดอร์กลับมา

2.ธุรกิจ Consumer ยังคงดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะเติบโตอยู่ที่ระดับ Single Digit หรือตัวเลขหลักเดียว 3.ธุรกิจ Healthcare และ Technical คาดว่าจะเติบโตในระดับต่ำจนถึงติดลบ 4.ธุรกิจ Modern Retail คาดว่าจะเติบโตในระดับต่ำจนถึงติดลบ รวมถึง SSSG จะเติบโตในระดับเดียวกัน

*จับตาปัจจัยภายนอก

ด้านผลประกระทบจากปัจจัยภายนอก บริษัทได้รับผลประโยชน์เชิงบวกจากโครงการคนละครึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มร้านค้าโดนใจที่เป็นพาร์ตเนอร์ มียอดขายเติบโตขึ้นอย่างชัดเจนในช่วงเริ่มโครงการ นอกจากนี้ยังได้แรงหนุนจากการเพิ่ม Big C ที่เป็น Physical Store เพื่อใช้เป็นฐานในการกระจายสินค้าให้กับร้านค้าโดนใจ

ส่วนสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา บริษัทได้รับผลกระทบบางส่วน โดยเฉพาะในสาขา Big C ที่อยู่ตามแนวชายแดน แต่ไม่ใช่ปัญหาใหญ่เรื่องจากมีสัดส่วนที่น้อย ขณะที่บริษัทได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมภาคใต้ ซึ่งได้ปิด Big C Mini ที่ถูกน้ำท่วมประมาณ 20 กว่าสาขา

*ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว

บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึง BJC ว่า ยอด SSSG ในช่วงต้นไตรมาส 4/2568 ติดลบ 3-5% YoY ใกล้เคียงกับไตรมาส 3/2568 สะท้อนการฟื้นตัวของยอดขายที่ทำได้จำกัด และการรีโนเวทสาขาขนาดใหญ่ยังไม่เสร็จสิ้น อีกทั้งในด้านต้นทุนจากการแข่งขันที่มากขึ้นในธุรกิจค้าปลีกมีโอกาสกดดันให้อัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจ Big C ฟื้นตัวยาก

จึงประเมินแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/2568 มีโอกาสลดลง YoY แต่จะเติบโตเด่น QoQ ตามปัจจัยฤดูกาล ถึงแม้ว่าจะผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว แต่ยังไม่เห็นสัญญาณฟื้นตัวของกำลังซื้อในทุกธุรกิจที่ชัดเจนในราคาเหมาะสม 22 บาท

นอกจากนี้ BJL (บริษัทย่อย) และ DHL Supply Chain (Thailand) ลงนามสัญญาร่วมทุน (JV) 50:50 เพื่อยกระดับการบริหารคลังสินค้าและซัพพลายเชนของกลุ่ม BJC สู่มาตรฐานโลก โดยบริษัทจะโอนงานโลจิสติกส์ภายใน (ยกเว้น Last MileDelivery) และ DHL จะโอนลูกค้ากลุ่ม Healthcare เข้ามาใน JV ความร่วมมือนี้ BJC ตั้งเป้าลดต้นทุน 360 ล้านบาทต่อปีภายในปีที่ 3 และขยายฐานลูกค้าใหม่โดยใช้เครือข่ายของ DHLซึ่งมีฐานลูกค้ากลุ่ม Healthcare ทั่วโลก

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง