HL รุกฐานต่างจังหวัด ปิดดีลซื้อหุ้นคืนฉลุย

#HL #ทันหุ้น - HL ใส่เกียร์ลุยขยายสาขาต่างจังหวัดเป็นครั้งแรก ประเดิมภาคตะวันออก แย้มไตรมาส 4/2568 จ่อเปิดอีก 4 สาขา รวมทั้งสิ้นเป็น 72 สาขา พร้อมออก 12 โปรดักต์ใหม่ ล่าสุดปิดดีลซื้อหุ้นคืน 57.79 ล้านบาท
ภก.ธัชพล ชลวัฒนสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฮลท์ลีด จำกัด (มหาชน) หรือ HL เปิดเผยว่า ในไตรมาส 4 เข้าสู่ช่วงไฮซีซัน ของธุรกิจร้านขายยาและเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี โดยเริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวตั้งแต่เดือนกันยายน หลังไตรมาส 3/2568 ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอ ผู้บริโภคใช้จ่ายน้อยลง แต่การชะลอตัวไม่รุนแรงถึงขั้นติดลบ ซึ่งผู้บริหารมั่นใจว่าจังหวะฟื้นตัวในไตรมาส 4/2568 จะช่วยดันผลประกอบการทั้งปีเข้าเป้าการเติบโต และเป็นโมเมนตัมต่อเนื่องสู่ปีหน้า
** ประเดิมต่างจังหวัด
ในปี 2569 จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ HL เตรียมเดินหน้าขยายสาขาออกนอกกรุงเทพฯ และปริมณฑล เป็นครั้งแรก โดยเริ่มจากภาคตะวันออก เนื่องจากบริหารจัดการง่ายและห่างไม่มากจากสำนักงานใหญ่ ก่อนขยายสู่จังหวัดใหญ่อื่นๆ ในระยะถัดไป ในส่วนไตรมาส 4 ปีนี้ เตรียมเปิดเพิ่มอีก 3 สาขา ทำให้มีสาขาที่เปิดดำเนินการทั้งหมดเป็น 72 สาขา โดยในปี 2569 บริษัทวางแผนเร่งเปิดสาขาเพิ่มต่อเนื่องทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
บริษัทยังคงเป้าออกสินค้าใหม่ 12 โปรดักต์ ภายในปีนี้ โดยเน้น “นวัตกรรมสมุนไพร” และการทำ R&D แบบ Outsource พร้อมร่วมวิจัยกับ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รวมถึงเดินหน้าส่งผลิตภัณฑ์เข้าลุ้นรางวัลระดับนานาชาติเพิ่มภาพลักษณ์ด้านคุณภาพ
สำหรับปี 2568 ยังมั่นใจเป้ารายได้โต 15–20% พร้อมเดินหน้าออกผลิตภัณฑ์นวัตกรรม ทั้งอาหารเสริมเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึม (Bioavailability Enhancer), ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว และสมุนไพรลดการสะสมเชื้อไวรัส ซึ่งได้รับรางวัลเวทีนานาชาติ รวมถึงนำเข้าอุปกรณ์การแพทย์เพิ่มเติม
** เร่งเปิดโปรดักต์ใหม่
พร้อมลุยเปิดตัวสินค้าใหม่ เช่น แชมพู สบู่ เซรั่มบำรุงผิว และขยายฐานลูกค้าด้วยสินค้ากว่า 10,000 รายการ ครอบคลุมยา เวชภัณฑ์ เวชสำอาง อาหารเสริม อุปกรณ์การแพทย์ และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ รองรับดีมานด์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพ นอกจากนี้บริษัทยังคงเดินหน้าเปิดรับพันธมิตรใหม่ในปีหน้า เพื่อขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ ทั้งอาหารเสริม เวชสำอาง และผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพเจาะกลุ่มผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพมากขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทได้ปิดโครงการซื้อหุ้นคืน เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2568 โดยซื้อหุ้นคืนได้จำนวนรวม 8,550,000 หุ้น หรือคิดเป็น 3.14% มูลค่า 57.78 ล้านบาท โดยมั่นใจช่วยเสริมความเชื่อมั่นนักลงทุน หนุนอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น ตอกย้ำพื้นฐานแกร่ง คาดรายได้ปี 2568 เติบโต 15-20% ทำสถิตินิวไฮต่อเนื่อง
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
