กองทัพอากาศย้ำเฝ้าระวังเที่ยวบินเบลารุส ชายแดนไทย-กัมพูชายังปลอดภัย

ศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้แจงกรณีมีกระแสข่าวเกี่ยวกับเครื่องบินลำเลียงจากประเทศเบลารุสเดินทางไปยังกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา โดย นาวาอากาศโท ณัฐนัย จันทร์เปล่ง ระบุว่า กองทัพอากาศไทย ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด แบ่งมาตรการออกเป็น 2 ส่วนหลัก คือ การเฝ้าระวังความเคลื่อนไหวของเที่ยวบินดังกล่าวควบคู่กับการติดตามเหตุการณ์ผิดปกติอื่น ๆ ที่อาจเกี่ยวข้องกับความมั่นคง
กองทัพอากาศยังคงเตรียมกำลังและระบบป้องกันตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่ามีความพร้อมตอบสนองต่อทุกสถานการณ์ โดยฝ่ายข่าวกรองมีข้อมูลครบถ้วนตั้งแต่จุดเริ่มต้น เส้นทางบิน สมรรถนะการบรรทุก ไปจนถึงพิสัยการบินของอากาศยานลำดังกล่าว
ด้าน พลอากาศเอก ประภาส สอนใจดี ผู้อำนวยการศูนย์แถลงข่าวร่วมฯ ย้ำว่า จากข้อมูลข่าวสารในขณะนี้ยังไม่พบภัยคุกคามใด ๆ ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลจากทางการและหลีกเลี่ยงการตื่นตระหนก เนื่องจากสถานการณ์โดยรวมกำลังเข้าสู่ช่วงการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และการสร้างบรรยากาศสู่สันติภาพอย่างยั่งยืนของประชาชนทั้งสองประเทศ
ขณะที่ พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ เปิดเผยความคืบหน้าการปฏิบัติตามถ้อยแถลงการณ์ร่วม (Joint Statement) ที่ตกลงหยุดยิงเป็นเวลา 72 ชั่วโมง โดยขณะนี้ผ่านไปแล้วกว่า 26 ชั่วโมง ฝ่ายไทยปฏิบัติตามข้อตกลงอย่างเคร่งครัด และยังไม่พบการละเมิดจากฝ่ายใด
สำหรับข้อสงสัยในสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับการเดินทางกลับที่พักอาศัยของประชาชนทั้งสองฝ่าย กองทัพบกชี้แจงว่า การเดินทางต้องอยู่ภายใน “พื้นที่ปัจจุบัน” ของแต่ละประเทศ ซึ่งหมายถึงพื้นที่ที่มีกำลังทหารประจำการอยู่ ดังนั้น พื้นที่ที่ฝ่ายไทยควบคุมไว้แล้วถือเป็นเขตแดนของไทย ประชาชนกัมพูชาที่เคยอาศัยในพื้นที่ดังกล่าวจึงไม่สามารถเดินทางกลับเข้ามาได้
ส่วนกรณีการปล่อยตัวเชลยศึกทหารกัมพูชา 18 นาย ดำเนินการตามกฎหมายระหว่างประเทศและหลักมนุษยธรรมอย่างเคร่งครัด กองทัพบกยืนยันว่าได้ดูแลเชลยศึกทั้งหมดด้วยความเหมาะสม ให้เกียรติและศักดิ์ศรีตามมาตรฐานสากล พร้อมมีกระบวนการบันทึกภาพและสัมภาษณ์ก่อนส่งตัวกลับประเทศ
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
