“SSP”จับตาไลน์ธุรกิจใหม่ เล็งไตรมาส4กำไรเด่น
#SSP #ทันหุ้น – SSP เล็งลงทุนธุรกิจใหม่ไม่ใช่พลังงาน คาดจบดีลไตรมาส 1/2566 ตั้งตารอโครงการลมเวียดนาม ดันใบอนุญาตขายไฟ 500 เมก ในปี 2568 มั่นใจผลงานโตไม่ต่ำกว่า 30% ด้านโบรกเคาะกำไรโค้งท้ายปี 2565 กำไรโตเด่น
นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SSP เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาลงทุนธุรกิจอื่นที่ไม่ใช่ธุรกิจพลังงาน แต่ยังเน้นธุรกิจที่เป็น ESG หรือสิ่งแวดล้อม คาดจะเห็นความชัดเจนประมาณต้นปี 2566 ขณะที่ธุรกิจพลังงานบริษัทอยู่ระหว่างรอความชัดเจนจากโครงการใหม่ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ดีลเวียดนามหนุน
ส่วนการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมขนาดใหญ่ ในประเทศเวียดนาม ปัจจุบันอยู่ระหว่างขั้นตอนทำการศึกษาและรอความชัดเจนจากภาครัฐของเวียดนาม ภายใต้แผนการพัฒนาพลังงานแห่งชาติ (PDP8) รวมถึงโครงการในประเทศ ซึ่งบริษัทมีความพร้อมที่จะลงทุน หากมีโครงการใหม่ออกมา
สำหรับแผนธุรกิจในอนาคตบริษัทจะผลักดันใบอนุญาตเป็น 500 เมกะวัตต์ ในปี 2568 จากปัจจุบันมีโครงการที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์ (COD) ที่ 240 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นการลงทุนทั้งในไทย มองโกเลีย ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย เวียดนาม ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ LEO 2 ในประเทศญี่ปุ่น กำลังการผลิต 22 เมกะวัตต์ และยังเป็นไปตามแผนคาดว่าจะสามารถจ่ายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ราวไตรมาส 2/2567
“เรายังรอความขัดเจนจากโครงการต่างประเทศ โดยเฉพาะเวียดนาม เพราะเป็นโอกาสในการลงทุน และการเติบโตของธุรกิจพลังงาน ส่วนในประเทศเราต้องติดตามโครงการใหม่ๆ” นายวรุตม์ กล่าว
ส่วนผลประกอบการปี 2565 คาดว่าจะเติบโตได้ตามเป้า หรือไม่ต่ำกว่า 30% ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 3/2565 คาดว่าจะประชุมคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) ประมาณวันที่ 11 พฤศจิกายน 2565 อนึ่ง 6 เดือนแรกปี 2565 บริษัทมีรายได้แล้วที่ 1.72 พันล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 939.63 ล้านบาท
โค้งท้ายกำไรเด่น
บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด คาดว่ากำไรปกติ SSP ไตรมาส 3/2565 ที่ 240 ล้านบาท ลดลงโดยการลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้ามีสาเหตุหลักจากปัจจัยฤดูกาลของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในไทยและส่วนแบ่งขาดทุนจากวินชัย ขณะที่การลดลงจากช่วงเดียวกันกับปีก่อน เป็นเพราะฝนที่ตกมากขึ้น กดดันปริมาณขายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในไทย
ส่วนไตรมาส 4/2565 คาดว่ากำไรจะเติบโตเด่นทั้งไตรมาสก่อนหน้าและช่วงเดียวกันกับปีก่อนตาม ปัจจัยฤดูกาลของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และลม ทั้งในไทยและเวียดนาม
ฝ่ายวิเคราะห์ปรับราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2566 ที่ 14.40 บาทต่อหุ้น มี Upside +44.0% โดยราคาหุ้นซื้อขายบน PER2566 เพียง 11.5x คงคำแนะนำ “ซื้อ” ในระยะกลาง SSP มีประเด็นการเก็งกำไรจากการประกาศรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนรอบใหม่ของ กกพ. เบื้องต้นคาดบริษัทจะยื่นเสนอขายไม่ต่ำกว่า 100 เมกะวัตต์ (มีความชัดเจนในไตรมาส 1/2566) และปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการเข้าลงทุนในโรงไฟฟ้าแห่งใหม่และธุรกิจใหม่คาดมีความชัดเจนมากขึ้นในไตรมาส 4/2565 และไตรมาส 1/2566
บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) คาดแนวโน้มไตรมาส 4/2565 เติบโตทั้ง YoY, QoQ โดยมีปัจจัยหลักคือการรับรู้ รายได้โครงการใหม่ซึ่ง COD ช่วง 4Q/2564-4Q/2565E และปัจจัยฤดูกาลของโรงไฟฟ้าพลังงานลมและคงประมาณการกำไรปกติปี 2565 ที่ 1.2 พันล้านบาท (+42% YoY, EPS +10% YoY Dilution Effect) ประมาณการกำไร 9M/2565E คิดเป็น 73%ของประมาณการดังกล่าว ราคาเป้าหมาย 16.00 บาท อิงวิธี DCF (Average WACC 5.0%, Terminal Growth 0%)