มือคนเรามีเชื้อโรคกว่า 150 ชนิด แม้เพิ่งล้างมือ รวมถึงเชื้อดัชนีอุจจาระ

ในชีวิตประจำวัน มือของเราเป็นอวัยวะที่ใช้สัมผัสสิ่งต่าง ๆ ตลอดเวลา — ประตู ลูกบิด โทรศัพท์ เงินสด หรือปุ่มกด ล้วนมีโอกาสเป็นแหล่งสะสมของจุลชีพ (แบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อรา) ที่อาจก่อโรคได้ เมื่อเราใช้มือสัมผัสใบหน้า จมูก ปาก หรือนำอาหารเข้าปาก เชื้อเหล่านี้สามารถเข้าสู่ร่างกายและทำให้เกิดการติดเชื้อได้ ดังนั้น การล้างมืออย่างถูกวิธีจึงเป็น “ด่านป้องกันแรก” ที่มีประสิทธิภาพที่สุดในชีวิตประจำวัน
มือของเรามีเชื้ออะไรอยู่บ้าง
นักจุลชีววิทยาพบว่าบนมือของคนทั่วไปมีเชื้อจุลชีพมากกว่า 150 สายพันธุ์ต่างกัน และมีจำนวนรวม “หลายล้านตัว” ต่อคู่มือหนึ่งคู่ โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลักคือ
•เชื้อประจำถิ่น (Resident flora) — อาศัยอยู่ตามธรรมชาติบนผิวหนัง ส่วนใหญ่ไม่ก่อโรค เช่น Staphylococcus epidermidis
•เชื้อผ่านทาง (Transient flora) — ติดมากับการสัมผัสสิ่งแวดล้อม เช่น Staphylococcus aureus, Escherichia coli, Pseudomonas spp. และเชื้อจากระบบทางเดินอาหาร
มีรายงานว่ากว่า 99% ของตัวอย่างมือ ที่ตรวจพบมีจุลชีพอย่างน้อยหนึ่งชนิด และบางกรณีพบว่ามือของคนทั่วไปมีเชื้อดัชนีอุจจาระ (fecal indicator bacteria) ซึ่งบ่งชี้ถึงการปนเปื้อนจากสิ่งแวดล้อมหรือสุขอนามัยส่วนบุคคลที่ไม่เหมาะสม
การแพร่กระจายของเชื้อจากมือ
เชื้อจุลชีพบนมือสามารถแพร่กระจายได้ง่ายมาก เช่น
1.การสัมผัสพื้นผิวที่ปนเปื้อน เช่น ลูกบิดประตู โทรศัพท์ หรือธนบัตร
2.การสัมผัสใบหน้า — โดยเฉลี่ยคนเราสัมผัสหน้าตัวเองกว่า 20 ครั้งต่อชั่วโมง
3.การส่งต่อเชื้อไปยังวัตถุอื่น — เช่น การส่งของ หรือจับราวบันได
4.เชื้ออยู่รอดได้นาน — บางชนิดอยู่บนมือได้ถึง 8–24 ชั่วโมง โดยเฉพาะในสภาพเปียกหรือมีไขมัน
การล้างมือให้ได้ผลจริง
การล้างมือด้วยสบู่และน้ำสะอาดอย่างน้อย 20 วินาทีสามารถลดจำนวนเชื้อได้กว่า 90–99%
หากไม่มีน้ำสะดวก สามารถใช้ เจลแอลกอฮอล์เข้มข้นอย่างน้อย 60% ทดแทนได้
สิ่งสำคัญคือการล้างให้ครบทุกส่วน ได้แก่ ฝ่ามือ หลังมือ ซอกนิ้ว ปลายนิ้ว เล็บ และข้อมือ
หลังล้างมือควร เช็ดให้แห้งทันที เพราะมือเปียกเป็นสภาพที่เชื้อสามารถเกาะและแพร่ได้ง่าย
โดยทั่วไป “กระดาษเช็ดมือแบบใช้ครั้งเดียว” ถูกมองว่าปลอดภัยกว่าการใช้เครื่องเป่ามือแรงสูง ซึ่งอาจทำให้เชื้อฟุ้งกระจายได้
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
