แพทย์อินเดียวอนรัฐบาลหยุดจัดพิธีทางศาสนา หลังจากที่หลายรัฐประกาศผ่อนคลายมาตรการเพื่อให้มีการจัดพิธีเกิดขึ้นได้

22 กรกฎาคม 2564 ( 10:31 )
75
Editor’s Pick: แพทย์อินเดียวอนรัฐบาลหยุดจัดพิธีทางศาสนา หลังจากที่หลายรัฐประกาศผ่อนคลายมาตรการเพื่อให้มีการจัดพิธีเกิดขึ้นได้ ท่ามกลางความกังวลว่าการระบาดรอบ 3 จะกลับมาอีก ขณะที่มีรายงานว่า พบแพทย์อินเดียเสียชีวิตแล้วเกือบ 1,500 คน นับตั้งแต่เริ่มการระบาดของโควิด-19
รัฐบาลยังให้ความสำคัญกับการเมืองมากกว่าชีวิตคน
นับตั้งแต่การระบาดของโควิด-19 เป็นต้นมา มีรายงานว่าแพทย์อินเดียเสียชีวิตลงแล้วมากถึง 1,492 คน ท่ามกลางความสิ้นหวังในด้านการเมืองมากขึ้น เนื่องจากยังให้ความสำคัญกับ "คะแนนเสียง" มากกว่า "การปกป้องชีวิต"
แพทย์ในมุมไบคนหนึ่งที่ไม่ต้องการเปิดเผยชื่อบอกว่า "นักการเมืองต้องการให้เราทำงานที่เผชิฐกับความเสี่ยง ครอบครัวก็เสี่ยง ในทุก ๆ วัน ในขณะที่พวกเขาอยู่กับบ้าน และห่วงแต่คะแนนเสียงของตัวเอง และหาหนทางในการครอบครองอำนาจอีกครั้ง"
ไฟเขียวอีกเทศกาลทางศาสนา
กลุ่มแพทย์ และเหล่าผู้พิพากษาของอินเดีย ต่างกำลังพยายามต่อสู้กันอย่างหนักเพื่อป้องกันการระบาดรอบ 3 แต่กลับมีรายงานว่า รัฐเกรละกลายเป็นอีกรัฐล่าสุดที่ประกาศผ่อนปรนมาตรการคุมเข้ม สำหรับการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา แม้ว่ายอดผู้ติดเชื้อยังคงสูงอยู่
เมื่อวันอังคาร (20 กรกฎาคม) ศาลสูงของอินเดียได้มีบทลงโทษต่อรัฐบาลของรัฐเกรละ ที่อนุญาตให้มีการจัดพิธีกรรมทางศาสนาเป็นเวลา 3 วัน สำหรับ อีดิลอัฎฮา ซึ่งเป็นเทศกาลสำคัญของชาวมุสลิม ท่ามกลางวิกฤตสาธารณสุข
สมาคมแพทย์แห่งอินเดีย ออกแถลงการณ์ต่อว่ารัฐบาลรัฐเกรละว่า การตัดสินใจดังกล่าว เป็นการ "ถอยหลังเข้าคลอง" และ "ไม่สมเหตุสมผลอย่างยิ่งในช่วงเวลาฉุกเฉินทางสาธารณสุขเช่นนี้" แตกต่างจากรัฐอื่น ๆ ที่ประกาศให้ระงับการรวมตัวเพื่อประกอบพิธีกรรมทางศาสนา อันจะเป็นการสร้างความปลอดภัยให้ชุมชน
สำหรับรัฐเกรละ มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่เมื่อวันจันทร์ (19 กรกฎาคม) 14,000 คน มากกว่า 1 ใน 3 ของจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งประเทศที่ 40,000 กว่าคน
“การปกป้องชีวิตรอไม่ได้”
ดร. เจ เอ จายาลัล ประธานสมาคมการแพทย์แห่งอินเดีย ระบุว่า "สำหรับเราแล้ว กิจกรรมทางศาสนาทั้งหมดรอได้ แต่การปกป้องชีวิตรอไม่ได้" และรัฐบาลท้องถิ่น่น่ไม่ควรตัดสินใจในสิ่งที่เป็นอันตรายต่อชีวิตประชาชน และหวังว่ารัฐบาลจะรับฟังในสิ่งที่แพทย์พูด
ทั้งนี้ เมื่อเดือนเมษายน เทศกาลกุมภเมลา ที่จัดขึ้นในเมืองหริทวาร รัฐอุตตราขันธ์ ก็กลายเป็นซูเปอร์สเปรดเดอร์ เนื่องจากผู้เข้าร่วมเทศกาลไม่ได้เว้นระยะห่างทางสังคม หรือสวมใส่หน้ากากอนามัย ก่อนที่ภายหลังจะสั่งให้ลดขนาดงานลง เมื่อยอดผู้ติดเชื้อสูงขึ้น โดยนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ทวีตข้อความว่า การฉลองควรเป็นแค่ "สัญลักษณ์" เท่านั้น
ไม่เพียงเท่านี้ รัฐบาลอุตตรขันธ์ ยังประเทศว่า จะเดินหน้าจัดงานโชตะ ชาธรรม (Chota Char Dham) เมื่อเดือนพฤษภาคม ก่อนที่จะถูกศาลสูงสั่งห้าม
ส่วนรัฐอุตตรประเทศ ก็ยังอนุญาตให้ชาวฮินดูราว 30 ล้านคน รวมตัวในงานกันวาร์ยาตรา ก่อนที่จะถูกศาลสั่งให้ต้องยกเลิกลง ในที่สุด
ราดำระบาด เสียชีวิตแล้ว 4,300 คน
ขณะที่รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขอินเดียรายงานว่า จนถึงตอนนี้ มีผู้ติดเชื้อราดำมากถึง 45,374 คนแล้ว และเกือบครึ่ง ยังรับการรักษาอยู่ โดยผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ ติดเชื้อราดำ 12-18 วัน หลังหายจากอาการป่วยโควิด
โรคติดเชื้อราดำ หรือโรคมิวคอร์ไมโคซิส เป็นโรคที่เกิดขึ้นได้ยาก เมื่อป่วยแล้วจะกระทบต่อไซนัส หรือโพรงอากาศในกะโหลกศีรษะ ลามไปถึงสมองและปอด จนเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน หรือภูมิบกพร่องอยู่แล้ว อาทิ ผู้ป่วยโรคมะเร็ง และโรคติดเชื้อ HIV หรือเอดส์
แพทย์อินเดีย เชื่อมโยงการติดเชื้อหายากนี้ กับการใช้สารสเตียรอยด์เพื่อรักษาผู้ป่วยโควิด คนที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานยิ่งเสี่ยงมากขึ้น
รัฐที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด คือ รัฐมหาราฏระและกุชราต ที่มีผู้เสียชีวิตจากเชื้อราดำรวมกัน 1,785 คน
ส่วนผู้เสียชีวิตทั่วประเทศ อยู่ที่กว่า 4,300 คน อย่างไรก็ดี ดอกเตอร์ราหุราช เฮกเด ศัลยแพทย์ด้านดวงตาในเมืองบังกาลอร์ ที่รักษาผู้ป่วยติดเชื้อราดำมาหลายคนแล้ว บอกว่า จริง ๆ แล้ว ยังมีผู้ป่วยและเสียชีวิตจากเชื้อราดำที่ตกสำรวจจากทางการอีกมาก
แพทย์อินเดียหลายคนยอมรับว่า ผู้ป่วยเสียชีวิตจากเชื้อราดำก่อนที่จะถึงโรงพยาบาลด้วยซ้ำ และแม้จะถึงโรงพยาบาล ก็ไม่ใช่ว่าโอกาสรอดจะเต็มร้อย
--------------------
เกาะติดสถานการณ์โควิด-19 ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ
คลิกเลย!! >>> รู้ทันกันโควิด <<< หรือ กด *301*35# โทรออก
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
