รีเซต

ASIANอาหารสัตว์ยอดพุ่ง ออเดอร์ยุโรป-สหรัฐหนุน

ASIANอาหารสัตว์ยอดพุ่ง ออเดอร์ยุโรป-สหรัฐหนุน
ทันหุ้น
27 พฤษภาคม 2567 ( 13:36 )
7
ASIANอาหารสัตว์ยอดพุ่ง ออเดอร์ยุโรป-สหรัฐหนุน

#ASIAN #ทันหุ้น- ASIAN คาดผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/2567 เติบโตต่อเนื่องตามยอดขายกลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง และต้นทุนการดำเนินงานที่ทรงตัวอ่อน หนุนอัตรากำไรขั้นต้นทรงตัวสูง มั่นใจรายได้จากการขายทั้งปี 2567 แตะเป้าที่ 11,300 ล้านบาท พร้อมรักษา GPM ที่ราว 14-15% ด้านโบรก แนะ "ซื้อ" เป้า 12.48 บาท

 

นายเอกกมล  ประสพผลสุจริต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการเงิน บริษัท เอเชี่ยนซี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ASIAN เปิดเผยว่า บริษัทคาดการณ์แนวโน้มผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/2567 มีแนวโน้มเติบโตสอดคล้องกับยอดขายที่แข็งแกร่งของธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง (Pet Food) ทั้งในทวีปยุโรป และสหรัฐอเมริกา ประกอบกับต้นทุนปลาทูน่าที่ราคายังทรงตัวอ่อนค่า รวมถึงอัตราแลกเปลี่ยนเงินสกุลบาทที่ทรงตัวอ่อนค่า

 

สำหรับธุรกิจธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็ง (Frozen Food)แม้จะเริ่มเข้าสู่ช่วงโลว์ซีซันของธุรกิจกดดันจากปริมาณวัตถุดิบที่เริ่มลดลง แต่ความต้องการสินค้ามูลค่าเพิ่ม (VAP) ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin : GPM) สูงยังคงเติบโตได้ต่อเนื่อง  เช่นเดียวกับธุรกิจอาหารสัตว์น้ำ (Aqua Feed) ยอดขายอาหารกุ้งยังมีแนวโน้มทรงตัวต่อเนื่องจากงวดไตรมาส 1/2567 (QoQ) แต่การที่กลุ่มบริษัทเริ่มกลับมาจำหน่ายอาหารปลา คาดจะช่วยหนุนยอดขายให้เติบโตได้เล็กน้อย

 

**คาดรายได้ 67 โต18%

 

พร้อมกันนี้ บริษัทยังคงติดตามสถานการณ์รัฐภูมิศาสตร์ที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณทะเลแดงซึ่งส่งผลต่อการขนส่งสินค้าทางทะเลอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้กลุ่มบริษัทยังคงเป้ารายได้รวมทั้งปี 2567 ที่ 11,300 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% จากปี 2566 (YoY) ที่ทำได้ 9,581 ล้านบาท แบ่งเป็นธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง 5,400 ล้านบาท, ธุรกิจอาหารสัตว์น้ำ 1,600 ล้านบาท, ธุรกิจทูน่า 1,100 ล้านบาท, และธุรกิจอาหารทะเลแช่เยือกแข็ง 3,200 ล้านบาท

 

นอกจากนี้ บริษัทยังได้ตั้งงบลงทุนทั้งปี 2567 ไว้ที่ 535 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนขยายคลังสินค้า (Warehouse) อัจฉริยะของกลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง 431 ล้านบาท และการนำเทคโนโลยีทันสมัยเข้ามาปรับปรุง – สนับสนุนกระบวนการผลิตของธุรกิจอาหารสัตว์น้ำ 64 ล้านบาท และธุรกิจอาหารทะเลแช่เยือกแข็งอีก 40 ล้านบาท

 

“กลุ่มบริษัทจะนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาสนับสนุนการผลิตทุกกลุ่มธุรกิจ เพื่อเพิ่มกำลังการผลิต และลดใช้แรงงานพนักงาน รวมถึงลดระยะเวลา – ขั้นตอนการผลิตให้ลดลงอย่างต่อเนื่อง”

 

สำหรับผลประกอบการไตรมาส 1/2567 บริษัทมีรายได้ 2,608 ล้านบาท เติบโต 14.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 2,272 ล้านบาท และเติบโตจากไตรมาสก่อนหน้า 7.1% ที่ทำได้ 2,435 ล้านบาท มาจาก 2 ธุรกิจ คือ ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงที่มีปริมาณการส่งออกเพิ่มขึ้นทั้งในตลาดสหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร และธุรกิจอาหารทะเลแช่เยือกแข็งที่เพิ่มขึ้นจากการส่งออกหมึกแช่เยือกแข่งไปยังยุโรปและผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มมูลค่า (VAP) ไปสหรัฐอเมริกาเพิ่มมากขึ้น

 

ทางด้านกำไรสุทธิไตรมาส 1/2567 อยู่ที่ 246 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 386% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำผลงานได้เพียง 51 ล้านบาท และเติบโต 203% จากไตรมาสก่อนหน้าที่ 81 ล้านบาท เช่นเดียวกับอัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิก็ปรับตัวสูงขึ้น โดยอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 17.5% เทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อนที่ 9.2% ส่วนอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 9.4% และมีกำไรต่อหุ้นเท่ากับ 0.30 บาทต่อหุ้น เพิ่มจากไตรมาส 1/2566 ที่ 0.06 บาทต่อหุ้น

 

**แนะ “ซื้อ”-เป้า 12.48 บ.

 

บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด คาดแนวโน้มกำไรในงวดไตรมาส 2/2567 ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง หนุนจากผลการดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงและอาหาร VAP แม้ว่ากำไรงวดไตรมาส 1/2567 จะอยู่ในระดับที่สูงก็ตาม

 

อย่างไรก็ตามคาดการณ์ผลการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุดแล้วในปี 2566 และจะเร่งตัวขึ้นต่อเนื่องในปี 2567 และยังมีการรับรู้ผลตอบแทนตามสัดส่วนการลงทุนในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เข้ามาสนับสนุนผลการดำเนินงานในปี 2568 ให้ยังสามารถเติบโตต่อเนื่อง จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสมที่ 12.48 บาท

 

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง