รีเซต

ป่วยไข้เลือดออกพุ่ง เสียชีวิตทะลุ 38 คน

ป่วยไข้เลือดออกพุ่ง เสียชีวิตทะลุ 38 คน
TNN ช่อง16
19 มิถุนายน 2567 ( 14:33 )
30

ในช่วงฤดูฝนมักพบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกจำนวนมาก จากสถิติผู้ป่วยไข้เลือดออกปีนี้กว่า 32,000 คนแล้ว ซึ่งมากกว่าปีที่แล้ว และมีผู้เสียชีวิต 38 คน ในจำนวนผู้เสียชีวิตพบเป็นกลุ่มผู้สูงอายุมากที่สุด สาเหตุการเสียชีวิตจากปัจจัยอะไรพร้อมมีข้อแนะนำในการดูแลผู้สูงอายุ


กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แนะเฝ้าระวังผู้สูงอายุป่วยเป็นโรคไข้เลือดออก แม้ผู้สูงอายุจะป่วยน้อยกว่ากลุ่มวัยอื่น ๆ แต่มีโอกาสเสี่ยงทำให้เสียชีวิตจากโรคไข้เลือดออกมากที่สุด เนื่องจากร่างกายอ่อนแอประกอบกับมีโรคประจำตัว เช่นเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคตับ โรคไต หรือภาวะอ้วน หากไปรักษาช้า ยิ่งเสี่ยงอันตรายมากขึ้น


ข้อมูลจำนวนผู้ป่วยไข้เลือดออกตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 12 มิถุนายน 2567 ไทยพบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกแล้ว 32,140 ราย มากกว่าปี 2566 ในช่วงเวลาเดียวกัน ถึง 1.3 เท่า (24,625 ราย) พบผู้ป่วยสูงสุดในกลุ่มอายุ 5 - 14 ปี //ขณะที่มีรายงานผู้ป่วยเสียชีวิต 38 ราย กระจายใน 22 จังหวัด โดยเสียชีวิตมากสุดในกลุ่มอายุ 65 ปี ขึ้นไป ซึ่งปัจจุบันพบการระบาดในจังหวัดน่าน เชียงราย แม่ฮ่องสอน และบึงกาฬ


สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ผู้ป่วย มีอาการรุนแรงจนเสียชีวิต ได้แก่

-มีโรคประจำตัว เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคตับ โรคไต ติดสุราเรื้อรัง

-ไปรักษาที่โรงพยาบาลช้า คิดว่าตัวเองไม่ได้เป็นไข้เลือดออก หรือ เข้าใจว่าไข้เลือดออกมีอาการไม่รุนแรง และอาจคิดว่าติดเชื้อโควิด-19 จึงซื้อยาฟัาทะลายโจรมากินเอง

-บางคนอาจซื้อยาลดไข้กลุ่ม เอ็นเสด (NSAIDs) เช่น ยาแอสไพริน ไอบูโพรเฟน ยาชุด มากินเอง ซึ่งยากลุ่มนี้ทำให้มีอาการเลือดออกมากขึ้น


ทั้งนี้กรมควบคุมโรคแนะให้สังเกตอาการ หากมีอาการไข้สูงลอยมากกว่า 2 วัน แม้จะกินยาลดไข้ แต่ไข้ไม่ค่อยลด และมีอาการหน้าแดง ร่วมกับมีอาการข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้ ให้ระวังอาจเป็นไข้เลือดออก 

-มีอาการเบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน

-ปวดท้อง กดเจ็บบริเวณลิ้นปี่ หรือใต้ชายโครงขวา

-ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ

-หรือมีจุดเลือดออกใต้ผิวหนัง หรือ เลือดกำเดาไหล

ทั้งนี้แนะนำให้รีบไปโรงพยาบาลเพื่อรับการรักษา


นอกจากนี้กรมควบคุมโรคยังแนะ 3 มาตรการเก็บ ซึ่งจะสามารถป้องกันได้ถึง 3 โรค ได้แก่ โรคไข้เลือดออก โรคติดเชื้อไวรัสซิกา โรคไข้ปวดข้อยุงลาย

โดยมาตรการ 3 เก็บ ดังนี้

-เก็บบ้าน เพื่อไม่ให้ยุงเกาะพัก

-เก็บขยะ ที่เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง

-เก็บน้ำปิดฝาภาชนะ ใส่ทรายกำจัดลูกน้ำยุงลาย ป้องกันยุงวางไข่


โดยโรคไข้เลือดออกยังไม่มียารักษา แต่เป็นการรักษาตามอาการและความรุนแรง หากสังเกตได้เร็ว รู้เร็ว ดูแลตัวเองได้เร็ว จะทำให้หายได้ในเวลาไม่นาน และป้องกันความรุนแรงถึงชีวิตได้


ข่าวที่เกี่ยวข้อง