รีเซต

ไข้หวัดใหญ่-RSV ป่วยพุ่ง ย้ำการ์ดอย่าตก ต้องระวัง ป้องกัน

ไข้หวัดใหญ่-RSV ป่วยพุ่ง ย้ำการ์ดอย่าตก ต้องระวัง ป้องกัน
TNN ช่อง16
22 กันยายน 2568 ( 11:00 )
7

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ย้ำเตือนช่วงฤดูฝน อย่าการ์ดตก ล่าสุดพบ ป่วยโรคติดต่อระบบทางเดินหายใจเพิ่มสูงขึ้นกว่าสัปดาห์ก่อน อย่างโรคไข้หวัดใหญ่เพิ่มขึ้นกว่า 3 หมื่นราย ส่วนโรคติดเชื้อไวรัสอาร์เอสวีเพิ่มขึ้น 3 พันกว่าราย ขณะที่สถานการณ์ภาพรวมตั้งแต่ต้นปี 68 ถึงปัจจุบันหวัดใหญ่สะสมแล้วกว่า 5.5 แสนราย เสียชีวิต 59 ราย ส่วน RSV ติดเชื้อกว่า 1.6 หมื่นราย เสียชีวิต 2 ราย แนะนำสุขอนามัยส่วนบุคคล

นพ.ภาณุมาศ ญาณเวทย์สกุล อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ข้อมูลจากระบบเฝ้าระวังโรคดิจิทัล (DDS) กองระบาดวิทยา พบว่า ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา (7–13 กันยายน 2568) มีการระบาดของโรคติดต่อระบบทางเดินหายใจเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะโรคไข้หวัดใหญ่ และโรคติดเชื้อไวรัสอาร์เอสวี (RSV) ซึ่งมีแนวโน้มพบผู้ป่วยมากขึ้นกว่าสัปดาห์ก่อน โดยมีรายงานผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่เพิ่มขึ้น 30,055 ราย และผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสอาร์เอสวี (RSV) เพิ่มขึ้น 3,454 ราย

สถานการณ์โรคตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม–20 กันยายน 2568 พบผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่สะสม 555,074 ราย เสียชีวิต 59 ราย กลุ่มอายุที่มีอัตราป่วยต่อประชากรแสนคนสูงสุด 3 อันดับแรก คือ 

  • กลุ่มอายุ 5–9 ปี (2,874.80) รองลงมาเป็น 0–4 ปี (2,395.00) และ 10–14 ปี (1,959.10) ตามลำดับ 
  • ส่วนโรคติดเชื้อไวรัสอาร์เอสวี (RSV) พบผู้ป่วยสะสม 16,145 ราย เสียชีวิต 2 ราย 
  • กลุ่มอายุที่มีอัตราป่วยต่อประชากรแสนคนสูงสุด คือ 0–4 ปี (467.10) รองลงมาเป็นกลุ่มอายุ 5–9 ปี (48.90) และ 10–14 ปี (4.20) ตามลำดับ

ทั้งสองโรคนี้เป็นโรคติดต่อระบบทางเดินหายใจที่มักพบการระบาดในช่วงฤดูฝน หากไม่มีการป้องกันที่เหมาะสมอาจเสี่ยงต่อการแพร่กระจาย และเกิดการระบาดเป็นกลุ่มก้อนได้ง่าย โดยเฉพาะในโรงเรียน ศูนย์เด็กเล็ก และสถานที่ชุมชน

กลุ่มเสี่ยงที่ควรเฝ้าระวังซึ่งอาจนำไปสู่การเจ็บป่วยรุนแรง ได้แก่ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว แม้ว่าทั้งสองโรคจะมีอาการใกล้เคียงกัน แต่สามารถสังเกตอาการได้ ดังนี้ ผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ มักมีไข้สูงเฉียบพลัน หนาวสั่น ปวดเมื่อยตามตัว ปวดศีรษะ ร่วมกับอาการไอแห้ง และเจ็บคอ 

ส่วนผู้ป่วย RSV มักเริ่มจากมีไข้ ไอ น้ำมูกไหล แต่ที่น่ากังวลคืออาการทางระบบหายใจ เช่น หอบเหนื่อย หายใจมีเสียงหวีด (wheezing) โดยเฉพาะในเด็กเล็ก ทำให้กินนมได้น้อย ซึมลง หรือมีอาการซี่โครงบุ๋มขณะหายใจ หากพบอาการรุนแรง ควรรีบไปพบแพทย์ทันที

นพ.ดิเรก ขำแป้น รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวแนะนำเพิ่มเติมว่า กรมควบคุมโรค เน้นย้ำให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันตนเองอย่างเคร่งครัด ได้แก่ 

  1. สวมหน้ากากอนามัยเมื่อมีอาการไอจาม หรืออยู่ในสถานที่แออัดหรือที่ที่มีกลุ่มคนจำนวนมาก 
  2. หมั่นล้างมือด้วยน้ำและสบู่เป็นประจำ 
  3. หลีกเลี่ยงการคลุกคลีกับผู้ป่วย 
  4. หากบุตรหลานมีอาการไข้ ไอ หายใจลำบาก หรือซึม ควรหยุดเรียน และรีบพาไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง