งานวิจัยใหม่ชี้พื้นที่ลงจอดบนดาวอังคารของยาน Rosalind Franklin Rover มีโอกาสพบสารอินทรีย์สูง

งานวิจัยล่าสุดที่นำเสนอในการประชุม Europlanet Science Congress และ Division for Planetary Science (EPSC-DPS) เผยว่า Oxia Planum พื้นที่ลงจอดของยานสำรวจ โรซาลินด์ แฟรงคลิน (Rosalind Franklin Rover) ขององค์การอวกาศยุโรป (ESA) มีศักยภาพในการเก็บรักษาสารอินทรีย์มากกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้
การศึกษาชิ้นแรกนำโดย ดร. อเล็กซานดรา โซโคว์สกา (Aleksandra Sokołowska) จากมหาวิทยาลัย Brown และ Imperial College London ใช้ข้อมูลจากยาน Mars Reconnaissance Orbiter (MRO) ของ NASA เพื่อตรวจพบการถล่มของหินกว่า 258 จุดในบริเวณ Oxia Planum ซึ่งอาจเปิดเผยชั้นหินใต้ผิวที่ได้รับการปกป้องจากรังสีรุนแรงมานาน ทำให้มีโอกาสพบโมเลกุลอินทรีย์ที่ยังคงสภาพสมบูรณ์
อีกงานวิจัยหนึ่งนำโดย อนันยา ศรีวัสตาวา (Ananya Srivastava) จากมหาวิทยาลัยเวสเทิร์นออนแทรีโอ พบว่าดินเหนียวในพื้นที่มีการสะสมเป็นชั้นสีส้มและสีน้ำเงินสลับกัน อันเป็นผลจากการพัดพาของน้ำท่วมและแม่น้ำในอดีต ดินเหนียวเหล่านี้มีคุณสมบัติสำคัญในการกักเก็บสารอินทรีย์ และยังอาจบันทึกสภาพภูมิอากาศโบราณของดาวอังคารได้หลากหลาย
โรซาลินด์ แฟรงคลิน คือใคร ?
สำหรับชื่อของยานโรซาลินด์ แฟรงคลิน (Rosalind Franklin Rover) มาจากการตั้งเพื่อเป็นเกียรติแก่นักวิทยาศาสตร์หญิงชาวอังกฤษ โรซาลินด์ เอลซี แฟรงคลิน (Rosalind Elsie Franklin, 1920–1958)
โรซาลินด์ แฟรงคลิน เธอเป็นนักเคมีและนักคริสตัลวิทยา ที่มีบทบาทสำคัญยิ่งในการค้นพบโครงสร้างเกลียวคู่ (Double Helix) ของ DNA ผลงานที่โด่งดังที่สุดคือ ภาพถ่ายเอกซ์เรย์คริสตัล (X-ray diffraction image) ที่รู้จักกันในชื่อ Photo 51 ซึ่งแสดงให้เห็นรูปแบบเกลียวคู่ของ DNA อย่างชัดเจน
ภาพถ่ายเอกซ์เรย์คริสตัล (X-ray diffraction image) ถูกนำไปใช้โดย เจมส์ วัตสัน (James Watson) และ ฟรานซิส คริก (Francis Crick) ในการสร้างโมเดลโครงสร้าง DNA ที่ถูกต้อง ซึ่งต่อมาพวกเขาได้รับรางวัลโนเบลสาขาสรีรวิทยาหรือแพทย์ร่วมกับ มอริซ วิลกินส์ (Maurice Wilkins) ในปี 1962
โรซาลินด์ แฟรงคลิน เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งรังไข่ในปี 1958 ขณะอายุเพียง 37 ปี ก่อนที่จะมีการมอบรางวัล ทำให้เธอไม่ได้รับการยกย่องในระดับเดียวกับเพื่อนร่วมงานในช่วงเวลานั้น
องค์การอวกาศยุโรป (ESA) จึงเลือกใช้ชื่อของเธอกับยานสำรวจดาวอังคาร Rosalind Franklin Rover เพื่อเชิดชูและย้ำถึงบทบาทของเธอในการปูทางให้กับวิทยาศาสตร์ชีววิทยาโมเลกุล และสะท้อนพันธกิจของยานที่มุ่งค้นหาหลักฐานของ สิ่งมีชีวิต (life signatures) บนดาวอังคาร
การออกแบบและพัฒนายานโรซาลินด์ แฟรงคลิน โรเวอร์
ยาน Rosalind Franklin Rover ออกแบบโดยองค์การอวกาศยุโรป (ESA) ภายใต้โครงการ ExoMars ให้เป็นยานสำรวจที่เชี่ยวชาญด้านการค้นหาหลักฐานสิ่งมีชีวิตโบราณบนดาวอังคาร โครงสร้างของยานมีน้ำหนักประมาณ 300 กิโลกรัม ติดตั้งระบบขับเคลื่อน 6 ล้อ ที่สามารถเคลื่อนที่บนภูมิประเทศขรุขระได้ดี
ยานถูกติดตั้งกล้องนำทางและกล้องวิทยาศาสตร์ความละเอียดสูงสำหรับวิเคราะห์ภูมิประเทศ ตัวโรเวอร์สามารถเคลื่อนที่ได้ชั่วโมงละประมาณ 200 เมตร และออกแบบให้ทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่รุนแรงบนดาวอังคาร เช่น ฝุ่นและความแตกต่างของอุณหภูมิที่มาก
จุดเด่นที่สุดของยานคือ สว่านเจาะใต้ผิวดิน ที่สามารถลงไปได้ลึกถึง 2 เมตร ซึ่งมากกว่าภารกิจสำรวจดาวอังคารก่อนหน้าอย่าง Curiosity หรือ Perseverance ที่เจาะได้เพียงไม่กี่เซนติเมตร สว่านนี้ทำงานร่วมกับห้องปฏิบัติการภายในยาน (Analytical Laboratory Drawer) ที่สามารถตรวจหาสารอินทรีย์ โมเลกุลที่ซับซ้อน และวิเคราะห์องค์ประกอบแร่ได้โดยตรง
อุปกรณ์อื่น ๆ ที่ติดตั้งรวมถึงสเปกโตรมิเตอร์ กล้องจุลทรรศน์อินฟราเรด และเซ็นเซอร์วัดบรรยากาศ ทำให้ Rosalind Franklin Rover เป็นยานยุโรปลำแรกที่มีความสามารถครบวงจรในการเจาะ เก็บ และวิเคราะห์ตัวอย่างใต้ดินเพื่อค้นหาสัญญาณของสิ่งมีชีวิตโบราณบนดาวอังคารอย่างเป็นระบบ
ภารกิจของยานโรซาลินด์ แฟรงคลิน โรเวอร์
ยานโรซาลินด์ แฟรงคลิน โรเวอร์ คาดว่าจะถูกส่งขึ้นในปี 2028 ภายใต้โครงการ ExoMars แม้ต้องเผชิญความล่าช้าจากปัญหาความร่วมมือระหว่างประเทศ ทั้งจากการยุติความร่วมมือขององค์การนาซา สหรัฐอเมริกา ในปี 2012 และการถอนตัวขององค์การอวกาศรัสเซีย Roscosmos หลังสงครามในยูเครน แต่การวิจัยใหม่นี้ยืนยันถึงความสำคัญของภารกิจ และอาจช่วยโน้มน้าวให้นาซายังคงการสนับสนุนต่อไป
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
