รีเซต

ธุรกิจในกทม.-ปริมณฑลดิ่งหนัก ดัชนีความเชื่อมั่นต่ำสุดในประเทศ

ธุรกิจในกทม.-ปริมณฑลดิ่งหนัก ดัชนีความเชื่อมั่นต่ำสุดในประเทศ
มติชน
19 สิงหาคม 2564 ( 06:05 )
48

 

นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(สสว.) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) ประจำเดือนกรกฎาคม 2564 ปรับลดลงจากเดือนมิถุนายน 2564 ที่ระดับ 32.6 มาอยู่ที่ระดับ 30.1 เป็นการปรับลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนเมษายน 2564 จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 กระทบกำลังซื้อภายในประเทศอย่างหนัก และข้อจำกัดในการดำเนินธุรกิจตามมาตรการควบคุมโรคทำให้ธุรกิจบางส่วนต้องปิดตัวลงชั่วคราว

 

 

นายวีระพงศ์ กล่าวว่า ดัชนีความเชื่อมั่นเอสเอ็มอียังปรับลดลงในทุกภูมิภาค โดยเฉพาะเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล อยู่ที่ 26.6 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 30.3 ปรับตัวลงไปต่ำสุดเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่นๆ เพราะมีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 สูงที่สุด และพื้นที่ทั้งหมดของกรุงเทพฯ และปริมณฑล ถูกกำหนดให้เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด สถานประกอบการหลายแห่งต้องปรับเปลี่ยนการดำเนินกิจการหรือมีการปรับระยะเวลาการเปิด-ปิด บางประเภทต้องปิดเป็นการชั่วคราวตามมาตรการควบคุมโรค รายได้ลดลงแต่ยังแบกรับภาระค่าใช้จ่ายต่างๆในช่วงปิดกิจการ โดยเฉพาะการห้ามออกจากเคหสถานในช่วงเวลาที่กำหนด เป็นปัจจัยสำคัญทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจชะลอตัวอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า

 

 

ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นฯภาคกลาง อยู่ที่ 28.7 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 30.3 ภาคตะวันออก ระดับ 30.6 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 32.6 ภาคเหนือ อยู่ที่ 27.4 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 28.3 ภาคใต้ ปัจจุบันอยู่ที่ 35.9 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 38.8 และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อยู่ที่ระดับ 33.4 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 35.8 จาก

 

 

นายวีระพงศ์ กล่าวว่า สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 41.9 ปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 39.8 เนื่องจากผู้ประกอบการส่วนใหญ่คาดหวังว่ารัฐบาลจะสามารถควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดและลดจำนวนผู้ติดเชื้อเมื่อเทียบกับปัจจุบันได้ ส่งผลให้ผู้บริโภคกลับมาใช้จ่ายในระดับที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ภาคการท่องเที่ยวนับเป็นภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบอย่างมาก การฟื้นตัวอาจล่าช้ากว่าภาคธุรกิจอื่น ๆ

“ปัญหาสำคัญที่มีผลกระทบต่อกิจการเอสเอ็มอี 5 อันดับแรก ได้แก่ 1. ด้านผู้บริโภคและกำลังซื้อ 2. ด้านต้นทุน 3. ด้านหนี้สินกิจการ 4. ด้านการได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงาน และ 5. ด้านคู่แข่งขัน”นายวีระพงศ์กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง