รีเซต

รู้จัก KiHa 183 ของ JR Hokkaido รถไฟมือสองที่ไทยซื้อจากญี่ปุ่น

รู้จัก KiHa 183 ของ JR Hokkaido รถไฟมือสองที่ไทยซื้อจากญี่ปุ่น
Ingonn
10 กันยายน 2564 ( 16:21 )
2K
รู้จัก KiHa 183 ของ JR Hokkaido รถไฟมือสองที่ไทยซื้อจากญี่ปุ่น

จากกระแส ไทยซื้อรถไฟมือ 2 มาจากญี่ปุ่น รุ่น KiHa 183 ของบริษัท JR Hokkaido ซึ่งเป็นรถดีเซลราง (DMU) แต่ปัจจุบันถูกปลดระวางและจอดทิ้งไว้ ทำให้ทางการรถไฟแห่งประเทศไทย ออกประกาศจัดจ้างขนย้ายรถดีเซลรางจากประเทศญี่ปุ่น จำนวน 17 คัน เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2564 และนำมาส่งเสริมการท่องเที่ยวในไทยต่อไป

 

 

แต่กลับมีกระแสว่าทำไมต้องเสียเงินซื้อของมือ 2 ทั้งที่ความจริงแล้ว KiHa 183 รถไฟมือสอง JR Hokkaido มีสภาพที่ดี และสามารถนำมาใช้งานได้ เพราะได้รับการดูแล บำรุงรักษาเป็นอย่างดี วันนี้ TrueID ไม่รอช้าจึงจะพาทุกคนไปรู้จักเจ้าเหล็กยักษ์ ประสิทธิภาพดี ทนทาน อย่าง KiHa 183 (คีฮา 183) กัน

 

 

 


รู้จัก KiHa 183


KiHa 183 เกิดขึ้นมาจากการที่บริษัท JR Hokkaido ต้องการเปลี่ยนรถไฟรุ่นเก่าที่ใช้มานาน และไม่สามารถรับสภาพอากาศความเหน็บหนาวสุดขั้วของฮอกไกโด ทางตอนเหนือของประเทศญี่ปุ่นไม่ไหว จึงได้มีการพัฒนารถไฟทั้งหมด ทั้งภายนอกและภายในให้เข้ากับปัจจุบันในยุคนั้นมากที่สุด ทำให้ “KiHa 183” ได้ผลิตขึ้นมาในปี พ.ศ.2522 และให้บริการครั้งแรกในปี 2524

 

 

KiHa 183 จึงเป็นรถรุ่นแรกๆ ที่เป็นรถรางดีเซล และถูกออกแบบมาให้มีความทนทานต่อสภาพอากาศในภูมิภาคฮอกไกโด มีความยาวอยู่ที่ประมาณ 21.3 เมตร กว้าง 2.9 เมตร ลักษณะท้ายรถออกแบบให้ลาดเอียง ไม่มีประตูด้านหลัง เพื่อป้องกันหิมะเกาะติดรถไฟ 

 

 

KiHa 183 มีเครื่องยนต์ 220 แรงม้า แต่บางคันก็มีเครื่องยนต์ถึง 450 แรงม้า ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 120-130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ด้วยความเร็วและความทนทาน สมรรถนะดี แม้ใช้งานมาหลายปีทำให้รถไฟ KiHa 183 เป็นที่นิยมยาวนานกว่า 15 ปีในประเทศญี่ปุ่น ก่อนจะถูกปลดระวาง ในปี 2544-2559 ในเวลาต่อมา เพราะต้องมีการพัฒนารถไฟอย่างต่อเนื่อง

 

 


KiHa 183 ที่ไทยซื้อต่อ ยังใช้ได้ดี!


จากการตรวจสอบสภาพตู้รถไฟ KiHa 183 ของบริษัท JR Hokkaido รถโดยสารในเบื้องต้นอยู่ในสภาพดี สามารถนำมาใช้งานได้ แม้จะเป็นตู้โดยสารที่ถูกปลดระวางในปี 2559 แต่ก็ได้รับการดูแล บำรุงรักษาเป็นอย่างดี ซึ่งการรถไฟฯ จะนำตู้มาดัดแปลงเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งาน และระบบของการรถไฟฯ เบื้องต้น คาดว่าจะนำตู้โดยสารดังกล่าวมาใช้ในการส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ 

 

 

ครั้งนี้เป็นความร่วมมือในการมอบตู้โดยสารเป็นครั้งที่ 2 หลังจากครั้งแรกได้ส่งมาให้ประเทศไทยแล้ว จำนวน 10 ตู้ เมื่อเดือนตุลาคม 2561 และอยู่ระหว่างกระบวนการปรับปรุงดัดแปลงเพื่อใช้สำหรับเป็นขบวนรถด้านการท่องเที่ยวแล้ว โดยการออกแบบนั้น ใน 1 ขบวน มีตู้โดยสาร 5 คัน แบ่งเป็นรถนั่งทั่วไป 3 คัน รถสำหรับครอบครัว 1 คัน และรถพักผ่อน 1 คัน ซึ่งการออกแบบและสีสันจะเป็นไปตามลักษณะของเส้นทางที่ให้บริการของรถไฟท่องเที่ยวขบวนนั้น ๆ โดยสามารถนำออกให้บริการได้ในช่วงประมาณปี 2565 

 

 

 

 

 

 

นอกจากนั้นเพจเฟซบุ๊ก Thailand Transportation ยืนยันอีกเสียงว่า ก่อนที่ KiHa 183 จะส่งมาไทยมันคือยังวิ่งให้บริการอยู่ แต่ที่ต้องปลดระวาง เนื่องจากมีขบวนรถดีเซลรางรุ่นใหม่ๆ มาทดแทน ซึ่งญี่ปุ่นเป็นเจ้าเทคโนโลยีรถไฟ , รถไฟความเร็วสูง ส่วนของเก่าจะทำลาย ก็มีค่าใช่จ่ายสูงพอๆกับค่าขนส่งมาไทย จึงส่งต่อให้ไทยมาใช้

 

 

พร้อมโพสต์ภาพที่ถ่ายเอง เมื่อตอนนั่งในขบวนรถนี้ (เมื่อ เม.ย.2559) ที่สถานี Asahikawa นั่งในขบวนรถนี้ (เมื่อ เม.ย.2559) ที่สถานี Asahikawa มาตรฐานการดูแล-บำรุงรักษาของญี่ปุ่น ก็อยู่ในระดับที่ดีกว่าไทย

 

 

 

ก่อนหน้านี้ การรถไฟฯ เคยได้รับตู้โดยสารรถไฟจากประเทศญี่ปุ่น (บริษัท JR-West) เพื่อใช้ในกิจการรรถไฟมาแล้ว โดยนำมาปรับปรุงและดัดแปลงเป็นรถโดยสาร และรถจัดเฉพาะ เช่น รถ SRT Prestige รถประชุมปรับอากาศ ฯลฯ ให้บริการแก่ประชาชน โดยสามารถสร้างรายได้ให้กับการรถไฟฯ และส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศได้เป็นอย่างดี 

 

 


ข้อมูลจาก การรถไฟแห่งประเทศไทย  , Reporter Journey blockdit , Thailand Transportation

 

 

--------------------

เกาะติดสถานการณ์โควิด-19  ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ
คลิกเลย!! >>> รู้ทันกันโควิด <<< หรือ กด *301*35# โทรออก

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง