ครั้งแรกของโลก! UAE ใช้ AI ช่วยร่างกฎหมาย l การตลาดเงินล้าน

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือ UAE เปิดเผยแผนการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อช่วยในการร่าง แก้ไข และทบทวนกฎหมาย ถือเป็นแนวทางแรกของโลกที่ผสานเทคโนโลยี AI เข้ากับกระบวนการออกกฎหมายอย่างเป็นระบบ
โครงการนี้ประกาศโดย ชีคโมฮัมเหม็ด บิน ราชิด อัล มักตูม ผู้ปกครองนครดูไบและรองประธานาธิบดีของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือ UAE โดยระบุว่า การนำ AI เข้ามาใช้จะช่วยเร่งกระบวนการร่างกฎหมายให้เร็วขึ้นถึงร้อยละ 70 ตามรายงานของ Financial Times ทั้งนี้ หน่วยงานรัฐบาลใหม่ที่มีชื่อว่า สำนักงานข่าวกรองด้านระเบียบข้อบังคับ (Regulatory Intelligence Office) ซึ่งได้รับอนุมัติเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จะเป็นผู้ดูแลการดำเนินโครงการ
ชีคโมฮัมเหม็ด กล่าวกับสื่อของรัฐว่า ระบบนิติบัญญัติใหม่นี้ซึ่งขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ จะเปลี่ยนวิธีที่ร่างกฎหมาย ทำให้กระบวนการนี้รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น
แนวทางของ UAE ถือเป็นการก้าวกระโดดจากการใช้งาน AI ในภาครัฐทั่วโลกที่ยังจำกัดอยู่ในงานด้านเอกสารหรือการสรุปรายงานเป็นส่วนใหญ่ โดย UAE ตั้งเป้าให้ AI วิเคราะห์ข้อมูลภาครัฐและข้อมูลทางกฎหมาย เพื่อนำไปสู่การทบทวนและปรับแก้กฎหมายอย่างจริงจัง
อับดุลคอลิก อับดุลลอฮ์ นักวิเคราะห์การเมืองของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กล่าวกับ The Telegraph ว่า ประเทศของเราจริงจังกับ AI อย่างยิ่ง พร้อมย้ำว่า UAE ต้องการเป็น ศูนย์กลางระดับโลกด้าน AI และเศรษฐกิจดิจิทัล เช่นเดียวกับที่เป็นศูนย์กลางด้านการเงินและโลจิสติกส์อยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ยังมีความกังวลเกี่ยวกับความแม่นยำของ AI ในการร่างกฎหมาย นักวิจัยให้สัมภาษณ์กับ Financial Times ว่า AI อาจตีความกฎหมายผิดพลาด และอาจเสนอร่างกฎหมายที่ไม่สอดคล้องกับบริบทหรือค่านิยมของมนุษย์
แม้จะมีความเสี่ยง คีแกน แมคไบรด์ แห่ง Oxford Internet Institute กล่าวชื่นชมเป้าหมายของ UAE โดยระบุว่าระบบการปกครองแบบรวมศูนย์ของประเทศนี้ ช่วยให้สามารถขับเคลื่อนนวัตกรรมได้รวดเร็วกว่าระบบประชาธิปไตย
โครงการนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของพันธกิจระยะยาวของ UAE ด้านเทคโนโลยี AI โดยในปี 2017 รัฐบาลได้แต่งตั้ง โอมาร์ ซุลต่าน อัล โอลามา เป็นรัฐมนตรีด้าน AI คนแรกของโลก และในปีเดียวกันก็ได้ประกาศยุทธศาสตร์แห่งชาติว่าด้วยปัญญาประดิษฐ์ เพื่อยกระดับประสิทธิภาพของภาครัฐผ่านเทคโนโลยีล้ำยุค
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อปีที่ผ่านมา UAE ยังได้จัดตั้งกองทุน AI ชื่อว่า MGX ซึ่งได้ร่วมลงทุนในโครงการระดับโลกหลายแห่ง รวมถึงการสนับสนุนกองทุนโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI มูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ของบริษัท BlackRock จากสหรัฐอเมริกาอีกด้วย