SABINA เด่นเข้าตากองทุน เร่งทำการตลาดปั๊มยอดขาย
ทันหุ้น-สู้โควิด-SABINA เนื้อหอมกองทุนใน-นอก รุมจีบถือหุ้น หลังโชว์ศักยภาพผลงานครึ่งปีแรกแข็ง แย้มยอดขายไตรมาส3/2563 ดีกว่า ไตรมาส 2/2563 เร่งทำการตลาดปั๊มยอดขาย คาดรายได้ทั้งปีโต 10% เผยตลาดออนไลน์ยังเติบโตดี ส่วนกลุ่ม OEM ออเดอร์ไหลเข้าต่อเนื่อง จากยุโรป ฟากโบรกมองผลงานไตรมาส 3/2563 ฟื้นตัวจากไตรมาสก่อน หลังต้นทุนลดลง ประเมินราคาเหมาะสม 24.30 บาท
แหล่งข่าววงการอุตสาหกรรม เปิดเผยถึง บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน) หรือ SABINA ว่าสำหรับยอดขายในช่วงไตรมาส 3/2563 จะเติบโตจากช่วงไตรมาส 2/2563 จากการทำการตลาดต่อเนื่อง อีกทั้งยอดขายในช่องทางต่างๆ กลับมาเกือบ 100% ซึ่งปัจจัยสำคัญจากการคลายล็อคดาวน์ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มเดินหน้าไปได้ นอกจากนี้สินค้าของซาบีน่าสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะในเรื่องของคุณภาพและราคาที่สอดคล้องกับรายได้ของผู้บริโภคในปัจจุบัน ทำให้บริษัทยังเป้าหมายรายได้ปีนี้จะเติบโตได้ 10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 3,294 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกทำรายได้แล้วกว่า 1,339 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน บริษัทยังส่งเสริมการขายผ่านช่องทางออนไลน์ แต่ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ การขายผ่านออนไลน์อาจจะไม่เติบโตมากเทียบกับช่วงครึ่งปีแรกเพราะประชาชนสามารถเดินทางไปซื้อสินค้าได้ปกติแล้ว ทั้งนี้ปัจจุบันสัดส่วนยอดขายผ่านออนไลน์อยู่ที่ประมาณ 20% ส่วนการรับจ้างผลิตหรือ OEM ปัจจุบันมีคำสั่งซื้อไปจนถึงปี 2564 แล้ว กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่คือยุโรป แต่ลูกค้าใหม่ก็ยังมีเจรจาต่อเนื่อง แต่ยังไม่ได้สามารถเดินทางมาดูสินค้าได้ ทำให้อาจจะเห็นลูกค้าใหม่ในช่วงปีหน้า แต่ลูกค้าปัจจุบันกลับมาสั่งสินค้าจำนวนมากแล้ว ทั้งนี้ปัจจุบันรายได้จากส่วนงานOEM อยู่ที่ประมาณ 9-10%
*เนื้อหอมกองทุนรุมจีบ
ทั้งนี้ธุรกิจของบริษัทยังได้รับความสนใจจากนักลงทุนสถาบันในประเทศและต่างประเทศ อย่างมาก หลังจากที่ผลการดำเนินการช่วงครึ่งปีหลังสะท้อนว่าบริษัทมีศัยกภาพในการบริหารจัดการธุรกิจ ได้รับคัดเลือกให้เป็นหุ้นเข้าใหม่ที่ติดอันดับการคำนวณดัชนี FTSE Micro Cap ที่จะเริ่มคำนวณในวันที่ 18 กันยายน 2563 นอกจากนี้ยังได้รับการจัดอันดับหุ้นยั่งยืน ESG100 ประจำปี 2563 จากสถาบันไทยพัฒน์ และล่าสุดก็ได้รับการจัดอันดับ ในGlobal Reporting Initiative (GRI)ถือเป็นกรอบการรายงานความยั่งยืนที่ได้รับความนิยมมาก ซึ่งตอกย้ำว่านอกจากการบริหารธุรกิจแล้ว บริษัทยังให้ความสำคัญกับเรื่องของธรรมาภิบาลและการเติบโตอย่างยั่งยืน
บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุถึง SABINAว่า อัตรากำไรฟื้นตัว และต้นทุนพนักงานลดลง โดยโรงงานที่หยุดผลิตชุดชั้นในตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน ในช่วงล็อกดาวน์ แต่ได้กลับมาผลิตแล้วช่วงปลายเดือนพฤษภาคม ช่วยให้อัตรากำไรฟื้นตัวขึ้นจากการผลิตในปริมาณมากขึ้น อีกทั้งบริษัทไม่ได้มีการลดพนักงานและไม่ลดเงินเดือน แต่จำนวนพนักงานลดลงไปเกือบ 400 คน ทำให้ลดค่าใช้จ่าย 30 ล้านบาทต่อปี ซึ่งจะเห็นผลในไตรมาส 3/2563
ทั้งนี้ SABINA มีการบริหารจัดการได้ดีในช่วงวิกฤต โดยไม่ต้องปิดโรงงานแต่เปลี่ยนมาผลิตหน้ากากผ้า สร้างรายได้เพิ่มขึ้น อีกทั้งสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีโดยลดค่าใช้จ่ายการตลาด และบริหารสินค้าคงเหลือให้เพิ่มขึ้นไม่มากนัก
*กำไรไตรมาส 3/63 ฟื้นตัว
อย่างไรก็ดีคาดว่ากำไรไตรมาส 3/2563 ยังลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนแต่ฟื้นตัว จากไตรมาสก่อนหน้า จากทั้งยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นฟื้นตัว ส่วนกำไรไตรมาส 4/2563 มีโอกาสกลับมาเติบโต จากช่วงเดียวกันปีก่อนได้ เนื่องจากการออกแคมเปญกระตุ้นยอดขาย การส่งออกสินค้า OEM ไปยุโรป และตุ้นทุนด้านพนักงานลดลง บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผล ครึ่งปีแรก 2563 ที่ 0.35 บาทต่อหุ้น (XD 26 ส.ค.ที่ผ่านมา) คิดเป็น Pay-out ratio 100% ตามเดิม อัตราผลตอบแทนครึ่งปีเท่ากับ 1.8% แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย (DCF) 24.30 บาท