SCBลูกค้าใหญ่ฟื้นชัด ชูฐานดิจิทัล1.3ล้าน
SCB ชูลูกค้ารายใหญ่สัญญาณการฟื้นตัวแกร่ง ดันสินเชื่อปีนี้โตราว2-3% เร่งเคลียร์ "STARK" คาดชัดเจนเร็วๆ นี้ ชูฐานลูกค้าเวลธ์ขยับสูง 12% เดินหน้ากวาดลูกค้านักลงทุนสายดิจิทัลเพิ่มเป้า 3 ปี 1.3 ล้านราย เดินหน้า บล.ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ เจาะบริหารความมั่งคั่งคลื่นลูกใหม่ ยกรับสู่อินเตอร์เนชั่นแนล ไพรเวท แบงกิ้งปี 2568
นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB เปิดเผยว่า บริษัทคาดแนวโน้มการเติบโตของสินเชื่อรวมในปี 2566 เติบโตประมาณ 2-3% เมื่อเทียบกับปี 2565 เนื่องจากลุ่มลูกค้าที่เป็นธุรกิจขนาดใหญ่มีสัญญาณการฟื้นตัวต่อเนื่อง แม้ลูกค้าในส่วนของธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กจะยังไม่ค่อยฟื้นตัวก็ตาม
ทั้งนี้ ปัจจุบันทางธนาคารมีฐานลูกค้าประมาณ 17 ล้านราย ซึ่งในส่วนนี้การใช้บริการผ่านแอปพลิเคชันของ "SCB EASY" อยู่ราว 14 ล้านราย และหลังจากนี้ทางธนาคารจะมีการมุ่งส่งเสริมการใช้บริการในส่วนนี้ให้มากขึ้น เพื่อเป็นการขยายฐานผู้ใช้บริการและเป็นการลดต้นทุนในส่วนของการให้บริการ ATM ในอนาคตอีกทางหนึ่ง
@เร่งเคลียร์เคส STARK
สำหรับประเด็นเกี่ยวกับบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือSTARK ซึ่งมีปัญหาในเรื่องการผิดนัดชำระหนี้และอื่นๆ นั้นล่าสุดได้มีการติดต่อทางลูกค้าดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างการพิจารณาเกี่ยวกับรายละเอียดต่างๆ อาทิ การตั้งสำรองหนี้สูญ ฯลฯ คาดน่าจะได้เห็นความชัดเจนเร็วๆ นี้
@ลูกค้าเวลธ์โตสนั่น
ขณะที่ปัจจุบัน SCB WEALTH มีฐานลูกค้าเวลธ์ ที่มีสินทรัพย์สุทธิภายใต้การบริหาร(AUM) ตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้นไป กว่า 400,000 ราย ซึ่งแผนงานขยายฐานลูกค้าเติบโตอย่างต่อเนื่องมากกว่า 12% ต่อปี โดยเฉพาะในกลุ่ม Young Affluent ที่มีความสนใจใน การวางแผนการลงทุนที่เติบโตต่อเนื่อง ผ่านการนำเสนอผลิตภัณฑ์การเงินการลงทุนที่หลากหลาย และ เป็น Open Architecture รวมถึงการขยายฐานลูกค้านักลงทุน Digital Investors ผ่านการพัฒนา Wealth Platform ที่ตอบโจทย์ เป้าหมายการลงทุนที่ครบวงจร ตั้งเป้าหมายภายใน 3 ปีจากนี้จะมีฐานลูกค้า Digital Investors กว่า 1.3 ล้านราย
โดยบริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ จำกัด (บริษัทร่วมทุนระหว่าง “ธนาคารไทยพาณิชย์” และ “จูเลียส แบร์”) เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนและสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจบริหารความมั่งคั่งระดับสูง (UHNWIs/ HNWIs) ทำให้ไทยพาณิชย์สามารถต่อยอดในการทำธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management) และสามารถช่วยวางแผนการเงินให้กับลูกค้าได้เต็มรูปแบบและครบวงจร
มั่นใจว่า ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ จะสามารถสร้างการเติบโตและผลตอบแทนที่ยั่งยืนให้กับลูกค้า กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความไว้วางใจและ ความน่าเชื่อถือที่ลูกค้าสามารถเชื่อมั่น ทำให้ธนาคารไทยพาณิชย์สามารถครองอันดับ หนึ่งในการเป็นดิจิทัลแบงก์ด้านการบริหารความมั่งคั่งได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ สอดคล้องกับกลยุทธ์ Digital Bank With Human Touch
@รุกเจาะฐานคลื่นลูกใหม่
ด้านนางสาวลลิตภัทร ธรณวิกรัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ จำกัด กล่าวว่า กลยุทธ์การบริหารงานจากนี้คงจะมุ่งให้ความสำคัญกับ “The New Wave of Wealth” หรือ เดินหน้าสู่คลื่นลูกใหม่ของ ธุรกิจบริหารความมั่งคั่งระดับสูงปี 2566 ผสานความเชี่ยวชาญของการลงทุนทั้งในประเทศ (Onshore) และต่างประเทศ (Offshore) เข้าไว้ด้วยกันแบบไร้รอยต่อด้วย Open Product Platform ที่มีความหลากหลาย
ซึ่งถือเป็นที่แรกและที่เดียว ในประเทศไทยที่สามารถดูแลและให้บริการบริหารความมั่งคั่งระดับสูงให้กับลูกค้าแบบครบวงจร ด้วยการให้บริการ แบบ“Human Touch” ของผู้จัดการธุรกิจสัมพันธ์ หรือRelationship Manager (RM) ให้คำปรึกษาด้านการลงทุนส่วน บุคคลแบบมืออาชีพมาตรฐานสากล ที่เข้าใจความต้องการของลูกค้าชาวไทยอย่างลึกซึ้ง
มุ่งยกระดับประสบการณ์ของ ลูกค้ากลุ่มที่มีความมั่งคั่งระดับสูงให้สามารถลงทุนทั่วโลกได้อย่างไร้พรมแดน พร้อมเปิด “The 45 Academia” หลักสูตร สุดเอ็กซ์คลูซีฟที่มุ่งเน้นเตรียมความพร้อมกลุ่มทายาทคนรุ่นใหม่ (Next Generation) สู่ผู้นำแห่งอนาคต (Leader of Tomorrow) เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถส่งต่อความมั่งคั่งจากรุ่นสู่รุ่นได้อย่างยั่งยืน
พร้อมกันนี้ ทางบริษัทตั้งเป้าภายใน 3 ปี ขึ้นแท่นผู้นำ International Private Banking ที่มีความเป็นเลิศด้านธุรกิจบริหารความมั่งคั่งแบบครบวงจร ให้กับกลุ่มลูกค้าที่มีความมั่งคั่งระดับสูง (UHNWIs และ HNWIs) ของเมืองไทย