โควิด-19 : WHO จำเป็นต้องตรวจสอบเพิ่มเติม ก่อนจะตัดความเป็นไปได้เรื่องไวรัสหลุดจากห้องแล็บจีน
ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (World Health Organization--WHO) ระบุว่า จำเป็นต้องมีการตรวจสอบเพิ่มเติมต่อไป ก่อนที่จะสรุปได้ว่า โควิด-19 ไม่ได้เกิดขึ้นมาจากห้องปฏิบัติการของจีน
นายเทดรอส อาดานอม เกเบรเยซัส กล่าวว่า แม้ว่า กรณีไวรัสหลุดมาจากห้องปฏิบัติการของจีนจะมีความเป็นไปได้น้อยที่สุด แต่ก็จำเป็นต้องมีการศึกษาวิจัยเพิ่มเติม
สหรัฐฯ และหลายประเทศได้วิจารณ์จีนว่า ไม่ให้ข้อมูลที่เพียงพอแก่ WHO
รัฐบาลจีนเพิกเฉยต่อข้อกล่าวหาเกี่ยวกับกรณีไวรัสหลุดจากห้องปฏิบัติการของจีนมาโดยตลอด
รายงานของ WHO และผู้เชี่ยวชาญจีนที่เผยแพร่เมื่อวันอังคาร (30 มี.ค.) ระบุว่า การอธิบายกรณีไวรัสหลุดมาจากห้องปฏิบัติการของจีนดูไม่น่าเป็นไปได้มากที่สุด และไวรัสน่าจะแพร่จากค้างคาวสู่มนุษย์ผ่านสัตว์ที่เป็นตัวกลางอีกชนิดหนึ่ง
จีนยังไม่ได้มีความเห็นใด ๆ ต่อแถลงการณ์ล่าสุดของ WHO
"สมมุติฐานทุกอย่างยังอยู่"
ดร.เทดรอส กล่าวเมื่อ 31 มี.ค. ว่า แม้ว่าทฤษฎีไวรัสอาจหลุดมาจากห้องปฏิบัติการ "จำเป็นต้องมีการตรวจสอบเพิ่มเติม อาจจะมีภารกิจเพิ่มเติมที่มีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเข้าร่วมหลายภารกิจ"
เขากล่าวเพิ่มเติมว่า "ขอผมพูดให้ชัดเจนว่า เท่าที่ WHO เข้าไปเกี่ยวข้อง ยังคงมีการพิจารณาสมมุติฐานทุกอย่างอยู่"
ไวรัสโคโรนาที่ทำให้เกิดโรคโควิด-19 ถูกตรวจพบครั้งแรกในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ยของจีน ในช่วงปลายปี 2019 คณะผู้เชี่ยวชาญจากนานาประเทศได้เดินทางไปยังเมืองอู่ฮั่นในเดือน ม.ค. เพื่อตรวจสอบต้นตอของไวรัส
การวิจัยของพวกเขาใช้การเก็บตัวอย่างและหลักฐานที่เจ้าหน้าที่ทางการจีนจัดหาให้ แต่ดร.เทดรอส กล่าวว่าทางคณะผู้เชี่ยวชาญประสบความยุ่งยากในการเข้าถึงข้อมูลดิบและเรียกร้องให้ "มีการแบ่งปันข้อมูลที่ครอบคลุมและทันท่วงทีมากขึ้น" ในอนาคต
คณะเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบความเป็นไปได้ทุกอย่าง รวมถึง ทฤษฎีที่ว่า ไวรัสมีต้นกำเนิดมาจากสถาบันไวรัสวิทยาอู่ฮั่น (Wuhan Institute of Virology) สถาบันแห่งนี้เป็นหน่วยงานชั้นนำของโลกในด้านรวบรวม เก็บรักษา และศึกษาไวรัสโคโรนาในค้างค้าว
นานาชาติวิจารณ์
หลัง WHO ออกรายงานนี้ สหรัฐฯ และพันธมิตร 13 ประเทศ รวมถึง เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และสหราชอาณาจักร ได้แสดงความกังวล เกี่ยวกับการค้นพบและเรียกร้องให้จีนเปิดให้ผู้เชี่ยวชาญ "เข้าถึง(ข้อมูล)ได้อย่างเต็มที่"
แถลงการณ์ระบุว่า ภารกิจในอู่ฮั่น "ล่าช้าอย่างมากและไม่สามารถ"เข้าถึงตัวอย่างและข้อมูลเดิมได้อย่างเต็มที่"
"ภารกิจด้านวิทยาศาสตร์เช่นภารกิจนี้ ควรทำงานภายใต้สภาพแวดล้อมที่สามารถให้ข้อค้นพบและคำแนะนำที่เป็นอิสระและไม่มีอคติ"
ทางกลุ่มได้รับปากว่าจะทำงานร่วมกับทาง WHO
นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นหนึ่งในผู้ที่สนับสนุนทฤษฎีที่ว่า ไวรัสหลุดออกมาจากห้องปฏิบัติการ
ปีเตอร์ เบน เอ็มบาเรก หัวหน้าคณะตรวจสอบของ WHO กล่าวเมื่อวันอังคารว่า คณะทำงานของเขารู้สึกถูกกดดันทางการเมือง รวมถึงจากนอกประเทศจีนด้วย แต่ระบุว่า เขาไม่เคยถูกกดดันให้ลบข้อมูลใด ๆ ออกจากรายงานสุดท้ายของคณะทำงาน
เขายังยืนยันด้วยว่า คณะทำงานของเขาไม่พบหลักฐานว่า ห้องปฏิบัติการทุกห้องในอู่ฮั่นมีส่วนในการระบาดนี้
ดร.เอ็มบาเรก กล่าวด้วยว่า "มีความเป็นไปได้อย่างที่สุด" ที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อในพื้นที่เมืองอู่ฮั่นในเดือน ต.ค. หรือ พ.ย. 2019 จีนได้แจ้งการพบผู้ติดเชื้อต่อ WHO เมื่อวันที่ 3 ม.ค. 2020 หรือหนึ่งเดือนหลังจากมีรายงานว่าพบการติดเชื้อครั้งแรกขึ้น
จีนปฏิเสธข้อกล่าวหาต่าง ๆ ที่ระบุว่า ไวรัสมีต้นกำเนิดจากห้องปฏิบัติการมาโดยตลอด และระบุว่า แม้ว่าจะตรวจพบผู้ติดเชื้อกลุ่มแรกในเมืองอู่ฮั่น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ไวรัสมีต้นกำเนิดมาจากที่นี่
สื่อทางการจีนอ้างว่า ไวรัสอาจจะเข้ามาในเมืองอู่ฮั่นจากการนำเข้าอาหารแช่แข็ง
จีนได้ควบคุมการระบาดของโรคในพื้นที่ส่วนใหญ่ไว้ได้ด้วยการตรวจหาเชื้อประชาชนจำนวนมากอย่างรวดเร็ว การรีบใช้มาตรการล็อกดาวน์ และการจำกัดการเดินทางอย่างเข้มงวด
ขณะนี้มีคนทั่วโลกติดเชื้อไวรัสนี้แล้วกว่า 127 ล้านคน นับตั้งแต่มีการพบผู้ติดเชื้อรายรายแรก และพบผู้เสียชีวิตจากโรคนี้กว่า 2.7 ล้านคนแล้ว
https://www.youtube.com/watch?v=3eUOvaP6wuw