รีเซต

RATCH เผยกำไรปี 67 ที่ 6,126.80 ลบ. โต 19% โบรกฯ คาด Q1/68 เติบโต

RATCH เผยกำไรปี 67 ที่ 6,126.80 ลบ. โต 19% โบรกฯ คาด Q1/68 เติบโต
ทันหุ้น
26 กุมภาพันธ์ 2568 ( 15:17 )
13

#RATCH #ทันหุ้น-RATCH ประกาศผลการดำเนินงานปี 2567 รับรู้กำไรส่วนของบริษัทฯ จำนวน 6,127 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% เมื่อเทียบกับปี 2566 คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 2.82 บาท และกำไรก่อนต้นทุนทางการเงิน ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) จำนวน 15,906 ล้านบาท นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 2/2568 เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 มีมติจ่ายเงินปันผลประจำปี 2567 ให้กับผู้ถือหุ้น เป็นจำนวน 3,480 ล้านบาท คิดเป็นหุ้นละ 1.60 บาท โดยจะเสนอขออนุมัติต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ในวันที่ 24 เมษายน 2568 และคาดว่าจะสามารถจ่ายเงินปันผลได้ในวันที่ 23 พฤษภาคม 2568  

 

บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) หรือ RATCH แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าในปี 2567 มีกำไร 6,126.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.57% เมื่อเทียบกับปี 2566 ที่มีกำไร 5,167.25 ล้านบาท 

 

นายนิทัศน์ วรพนพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)หรือ RATCH เปิดเผยว่า บริษัทฯ ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง สะท้อนจากกำไรส่วนของบริษัทฯ จำนวน 6,127 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% และ EBITDA จำนวน 15,906 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบกับปี 2566 โดยมีปัจจัยบวกจากรายได้จากส่วนแบ่งกำไรของกิจการร่วมทุน จำนวน 6,798 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 78% ซึ่งเป็นผลมาจากโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมหินกอง ชุดที่ 1 และโรงไฟฟ้าพลังความร้อนไพตันในอินโดนีเซีย 

 

สำหรับรายได้รวม ในปี 2567 เป็นจำนวน 42,203 ล้านบาท ซึ่งธุรกิจผลิตไฟฟ้า ถือเป็นแหล่งรายได้หลัก เป็นจำนวน 40,024 ล้านบาท คิดเป็น 95% ของรายได้รวม โดยเป็นรายได้ที่ได้จากโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงฟอสซิล จำนวน 

34,326 ล้านบาท และรายได้ของโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน จำนวน 5,698 ล้านบาท ส่วนรายได้จากธุรกิจสาธารณูปโภคและอื่น ๆ เป็นเงินจำนวน 2,179 ล้านบาท คิดเป็น 5% ของรายได้รวม

 

นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติเงินปันผลจ่ายแก่ผู้ถือหุ้นสำหรับผลการดำเนินงานของปี 2567 เป็นจำนวน 3,480 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 56.80 ของกำไรปี 2567 ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2567 บริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรก (งวดเดือนมกราคม - มิถุนายน 2567) แล้ว จำนวน 1,740 ล้านบาท คิดเป็นหุ้นละ 0.80 บาท จึงคงเหลือเงินปันผล อีกจำนวน 1,740 ล้านบาท คิดเป็น 0.80 บาทต่อหุ้น ที่จะดำเนินการจ่ายภายหลังได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น ซึ่งคาดว่าจะจ่ายเงินปันผลในวันที่ 23 พฤษภาคม ศกนี้

     

“บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยธุรกิจผลิตไฟฟ้าจะยังคงเป็นธุรกิจหลัก ปัจจุบัน บริษัทฯ อยู่ระหว่างการทบทวนและปรับแผนกลยุทธ์ของบริษัทฯ ให้มีความยืดหยุ่นเพื่อให้สามารถเข้าถึงโอกาสการลงทุนโครงการด้านพลังงานและไฟฟ้า นวัตกรรมที่เป็นโมเดลธุรกิจใหม่ ๆ ที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานทั้งในประเทศไทยและประเทศเป้าหมาย ในปีที่ผ่านมา  บริษัทฯ ได้เริ่มศึกษาพลังงานรูปแบบใหม่ที่จะนำมาใช้ในการผลิตไฟฟ้า ได้แก่ เชื้อเพลิงกรีนไฮโดรเจน เทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าจากเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ขนาดเล็กแบบโมดูลาร์ ระบบกักเก็บพลังงานรูปแบบแบตเตอรี่ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมุ่งที่การบริหารจัดการพอร์ตสินทรัพย์ที่มีอยู่แล้วเพื่อให้สามารถสร้างรายได้เสริมหนุนต่อการเติบโตของบริษัทฯ ให้ดียิ่งขึ้น สำหรับแผนกลยุทธ์ดังกล่าว กำหนดจะแล้วเสร็จในไตรมาส 1 ปีนี้” นายนิทัศน์ กล่าว          

 

ฐานะทางการเงินของบริษัทฯ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวม 214,337 ล้านบาท หนี้สินรวม 107,963 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้นรวม 106,374 ล้านบาท สำหรับอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน อยู่ที่ 1.01 เท่า

 

**โบรกฯ แนะนำซื้อ 

 

บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) แนะนำซื้อหุ้น RATCH โดยให้ราคาเหมาะสมอยู่ที่ 33 บาทต่อหุ้น ในเบื้องต้นคาดว่ากำไรปกติงวดไตรมาส 1/68 จะอยู่ที่ประมาณ1,500 ล้านบาทบวกลบ เติบโตเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน หรือ QoQ และโตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน หรือ YoY จากรายได้จากค่าความพร้อมจ่ายของโรงไฟฟ้า IPP ที่ฟื้นตัวตามฤดูกาล และการเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการ COD โรงไฟฟ้าหินกองหน่วยที่ 2 ในช่วงต้นเดือน ม.ค. 2568 รวมถึงจำนวนวันการปิดซ่อมบำรุงของโรงไฟฟ้าหงสาและ Paiton ที่ลดลง และค่าใช้จ่าย SG&A ที่คาดลดลงกลับมาอยู่ที่ระดับ 700-750 ล้านบาทตามฤดูกาล 

 

โดย RATCH ประกาศจ่ายเงินปันผลในงวดครึ่งหลังปี 2567 จำนวน 0.80 บาท คิดเป็น Dividend Yield 3.0% ขึ้น XD วันที่ 17 มี.ค. และจะมีการจัดประชุมนักวิเคราะห์ในวันที่ 28 ก.พ.นี้ 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง