ภูเก็ตเร่งสอบปากคำ เหตุขวางรถตู้ 4 นทท. จนต้องหาคันใหม่ แท็กซี่แจ้งความถูกกล่าวหา 'มาเฟีย'
จากกรณีเมื่อวันที่ 2 กันยายน มีการแชร์คลิปวิดีโอ 2 คลิปในกลุ่มไลน์ผู้ขับขี่รถรับจ้างใน จ.ภูเก็ต โดยคลิปดังกล่าวเผยให้เห็นชายใส่เสื้อดำ กางเกงยีนส์ กำลังถกเถียงกับคนขับรถตู้โดยสาร จับใจความได้ว่า มีการห้ามรถตู้คันดังกล่าวนำนักท่องเที่ยววัยรุ่นชาวต่างชาติ 4 คน ที่นั่งอยู่บนรถขับออกไป อีกทั้งมีลักษณะการข่มขู สร้างความงุนงงให้นักท่องเที่ยวทั้ง 4 ราย สุดท้ายต้องลงจากรถและต้องเดินทางไปหารถคันใหม่ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดขึ้นบริเวณทางเข้าท่าเรือรัษฎา อ.เมืองภูเก็ต
เมื่อวันที่ 4 กันยายน ที่ สภ.เมืองภูเก็ต นายอัดชา บัวจันทร์ ขนส่งจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.พิเชษฐ์พงศ์ แจ้งคล้ายคม ผกก.ตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต พ.ต.ท.สาธิต หนูฤทธิ์ รอง ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต ร่วมสอบปากคำ นายชลลี่ มีสินพาณิชทนนท์ คนขับรถตู้รับนักท่องเที่ยว และ นายเอกชัย เดชะ ผู้ที่อยู่ในคลิปที่มาไล่ไม่ให้รับนักท่องเที่ยว
พ.ต.อ.พิเชษฐ์พงศ์กล่าวว่า เมื่อเช้าตำรวจท่องเที่ยว ขนส่งจังหวัด และตำรวจภูธรเมืองภูเก็ตได้ลงพื้นที่ท่าเรือรัษฎาเพื่อดูบรรยากาศการใช้บริการรถแท็กซี่ พบว่าทางท่าเรือหลักคือบริษัท ซีทราน ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนได้รับสัมปทาน โดยอนุญาตให้บริษัท รัษฎาวีไอพี ผู้ให้บริการรถแท็กซี่ได้เข้ามาเป็นผู้ให้บริการ เมื่อเช้าที่เห็นยังไม่มีความผิดปกติอะไร ส่วนทางคดีที่ทราบตอนนี้เมื่อวานบริษัท รัษฎา ได้มอบอำนาจให้ตัวแทนมาแจ้งความร้องทุกข์ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งมีคนกล่าวหาว่าเป็น “แท็กซี่มาเฟีย” กระทบภาพลักษณ์ สภ.เมืองภูเก็ต รับคดีไว้แล้ว
พ.ต.อ.พิเชษฐ์พงศ์กล่าวว่า ส่วนรถตู้ที่ไปรับนักท่องเที่ยว และปฏิเสธนักท่องเที่ยวพร้อมให้ลงจากรถได้เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งความแล้ว จากนั้นเจ้าหน้าที่จะทำการสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน จะได้มีความเห็นอีกครั้งว่าทั้งสองฝ่ายผิดถูกอย่างไร
พ.ต.อ.พิเชษฐ์พงศ์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ขนส่งได้ตรวจสอบแล้ว ทั้งคิวรถที่รัษฎาและรถที่ให้บริการผ่านแอพพลิเคชั่นเป็นรถที่ถูกต้องตามกฎหมาย ขณะที่นักท่องเที่ยวทั้งหมดทราบว่าพักอยู่โซนป่าตอง ตอนนี้กำลังตามตัวมาทำความเข้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“ขนส่งจังหวัดภูเก็ตบอกว่าหลังจากนี้จะเรียกคิวรถทั้งภูเก็ตกว่า 40 คิว มาพูดคุย และจะเชิญตำรวจท่องเที่ยว รวมทั้งตำรวจภูธรมาพูดคุยเรื่องการให้บริการนักท่องเที่ยว ซึ่งทางขนส่งวางระบบไว้แล้ว แต่อาจต้องมาสื่อสารให้เข้าใจอีกครั้งหนึ่ง เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบภาพลักษณ์ของ จ.ภูเก็ต
“อยากจะฝากถึงผู้ประกอบการรถเช่าต่างๆ เข้าใจว่าเรากระทบเรื่องโควิด-19 มา 2 ปี ไม่มีรายได้ วันนี้นักท่องเที่ยวทยอยเข้ามาแล้ว เริ่มกลับมาวิ่งรถกันได้ เพราะฉะนั้นแล้ว ทุกคนก็พยายามเข้าสู่ระบบคือทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งขนส่งจังหวัดตรวจสอบเป็นประจำอยู่แล้ว นอกจากนี้ เมื่อเราเป็นผู้ให้บริการอยากให้ระวังเรื่องคำพูดที่อาจสื่อสารผิดพลาด เพราะการใช้สื่อโซเชียลต่างๆ ก็มีผล เรามีส่วนราชการอยู่แล้ว ไม่ว่าขนส่งจังหวัด ตำรวจพื้นที่ ตำรวจท่องเที่ยว มีเบอร์สายตรง มีฮอตไลน์อยู่แล้ว ท่านสามารถโทรมาติดต่อสอบถามได้ ก่อนที่ท่านจะตัดสินใจทำอะไรลงไป เพราะหากผิดพลาดขึ้นก็จะเกิดผลกระทบตามมา” พ.ต.อ.พิเชษฐ์พงศ์กล่าว