ชาวพม่า เดือดร้อนหนัก ศก.ไม่ดี ยอมกู้เงินหมื่น จ่ายนายหน้าเข้าไทย สุดท้ายถูกจับ

เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ เจ้าหน้าที่ทหารกองร้อยสกัดกั้นที่ 3 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 อ.แม่สอด พร้อมด้วยตำรวจสภ.พะวอ อ.แม่สอด จ.ตาก ได้รับการประสานงานขยายผลการจับกุมแรงงานต่างด้าว 15 คนที่ถูกจับกุมขณะซ่อนตัวอยู่ในรถยนต์กระบะบรรทุกผักกาดขาว บริเวณจุดตรวจบ้านห้วยยะอุ ตำบลด่านแม่ละเมา

หลังจากสอบปากคำแรงงานที่ถูกจับ พร้อมคนขับรถยนต์ชายไทย 1 คนเป็นผู้นำพา ทราบว่า ยังมีแรงานเมียนมาอีก 11 คนอยู่ในป่าข้างทางใกล้บ้านปางส้าน ตำบลพะวอ จึงออกลาดตระเวน จนพบสิ่งบอกเหตุเป็นถุงบรรจุ และเศษผักกาดขาวจำนวนมากถูกทิ้งอยู่ในบริเวณนั้น เมื่อตรวจสอบในพื้นที่โดยรอบ ได้พบกลุ่มบุคคลต่างด้าว สัญชาติเมียนมา จำนวน 11 ราย แยกเป็นชาย 3 คน หญิง 8 คน หลบซ่อนอยู่ในป่าไผ่ ใกล้กับถนนทางหลวงหมายเลข 12 สายอ.แม่สอด-อ.เมืองตาก เขตบ้านปางส้าน – ต.พะวอ เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวชาวเมียนมาทั้งหมดตรวจหาโรคไวรัสโคโรนา2019(โควิด-19) และสอบปากคำทราบว่า ชาวเมียนมาทั้งหมดไม่มีเอกสารการเข้าเมืองโดยถูกต้อง

จากการสอบถามบุคคลต่างด้าว ทั้ง 11 ราย ให้การว่า ได้ลักลอบข้ามแม่น้ำเมยมาในคืนวันที่ 26 กุมภาพันธ์ บริเวนพื้นที่ใต้สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 บ้านริมเมย ตำบลท่าสายลวด อ.แม่สอด จากนั้นเดินทางไปจุดนัดพบกับนายหน้าบริเวณถนนสายบ้านวังตะเคียน-บ้านท่าอาจ โดยมีรถยนต์กระบะมารับไป และถูกนำมาทิ้งไว้ที่บ้านปางส้าน โดยทั้งหมดได้จ่ายค่านำพาไปจนถึงกทม.หัวละ 28,000 บาท

ชายชาวเมียนมารายหนึ่ง บอกว่า อยู่ในประเทศเมียนมาไม่มีงานทำ เศรษฐกิจไม่ดี ครอบครัวได้รับความเดือดร้อน จึงกู้เงินมาเสียค่านายหน้า เพื่อให้เข้าไปทำงานในประเทศไทย แต่เมื่อถูกจับ งานไม่ก็ไม่ได้ทำ เงินก็ไม่ได้คืน และยังถูกจับอีก

เจ้าหน้าที่ทหารเปิดเผยว่า แรงงานต่างด้าวที่ถูกจับเป็นขบวนการเดียวกับชุดที่ถูกจับกุมโดยอำพรางเอาแรงงานต่างด้าวซุกในรถบรรทุกผักกาดขาว แต่ชุดนี้ขบวนการน่าจะทราบว่า ชุดแรกถูกจับจึงทิ้งแรงงานไว้ในป่าข้างทาง ซึ่งมีกองผักกาดขาวกระจัดกระจายอยู่ด้วย