'โปรตุเกส' จ่อกลับมาใช้วัคซีนโควิด-19 'แอสตราเซเนกา' 22 มี.ค. นี้

ลิสบอน, 19 มี.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันพฤหัสบดี (18 มี.ค.) รัฐบาลโปรตุเกสประกาศเตรียมเริ่มใช้งานวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ของแอสตราเซเนกา (AstraZeneca) อีกครั้งในวันจันทร์หน้านี้ (22 มี.ค.) หลังจากระงับใช้งานมานาน 3 วันเพื่อตรวจสอบผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ที่รับวัคซีนของแอสตราเซเนกา
"แผนฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ได้รับผลกระทบจากการระงับใช้วัคซีนของแอสตราเซเนกา แต่แผนดังกล่าวจะเริ่มอีกครั้งตั้งแต่วันจันทร์หน้าเป็นต้นไป โดยเราจะเร่งรัดกระบวนการให้ทันตามกำหนดการ" พลเรือโทเอ็นริเก โกเวีย อี เมโล (Henrique Gouveia e Melo) ซึ่งเป็นผู้ประสานงานของหน่วยเฉพาะกิจด้านการสร้างภูมิคุ้มกัน แถลงข่าว
การตัดสินใจครั้งนี้มีขึ้นหลังจากองค์การยาแห่งสหภาพยุโรป (EMA) ประกาศการจัดประเภทวัคซีนของแอสตราเซเนการอบใหม่ว่า "ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ"
"ข้อสรุปนี้มีความชัดเจนเป็นอย่างมากและยืนยันถึงประโยชน์ของวัคของแอสตราเซเนกาว่ามีมากกว่าความเสี่ยงใดๆ ที่เคยตรวจพบ" รุย ไอโว เภสัชกรชาวโปรตุเกส ซึ่งเป็นตัวแทนอินฟาร์เมด (หน่วยงานควบคุมดูแลยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพแห่งชาติของโปรตุเกส) กล่าวกับผู้สื่อข่าว
ปัจจุบัน มีวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ราว 4 ตัวที่ได้รับการอนุมัติจากองค์การยาแห่งสหภาพยุโรป ได้แก่ วัคซีนของไบออนเทค-ไฟเซอร์ วัคซีนของโมเดอร์นา วัคซีนของแอสตราเซเนกา และวัคซีนของแจนส์เซน (Janssen) บริษัทในเครือของ จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน โดยวัคซีนของแจนส์เซนจะออกสู่ท้องตลาดในไตรมาสสองของปี 2021
ทั้งนี้ โปรตุเกสรายงานพบผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 เพิ่ม 21 ราย และพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่ม 485 ราย ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตรวมอยู่ที่ 16,743 ราย และยอดผู้ป่วยโรคโควิด-19 สะสมอยู่ที่ 816,055 ราย นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาด