"ยิ่งใช้ยิ่งได้" วิธีการใช้สิทธิ์ ใครได้บ้าง?
หลังการประชุม ครม. มีการเคาะมาตรการเยียวยาผลกระทบจากการระบาด "โควิด-19" ระลอกใหม่ (เมษายน 2564) และเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาหลากหลายมาตรการ หนึ่งในนั้นคือ "ยิ่งใช้ยิ่งได้" ที่เป็นโครงการใหม่ป้ายแดง โดยทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลได้ออกแบบโครงการเบื้องต้นออกมาเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ล่าสุด ครม.ก็ไฟเขียว มีมติเห็นชอบโครงการนี้แล้ว
วันนี้ trueID จะมาเปิดเผยรายละเอียดมาตรการดังกล่าวให้รับทราบกัน
มาตราการยิ่งใช้ "ยิ่งใช้ยิ่งได้" คืออะไร
"ยิ่งใช้ยิ่งได้" เป็นโครงการใหม่จากรัฐบาล เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ระลอกล่าสุด กระตุ้นการใช้จ่ายประคองกำลังซื้อในช่วงไตรมาสที่ 3 - 4 ของปีนี้ โครงการนี้จะช่วยกระตุ้นการบริโภคในประเทศผ่านผู้มีกำลังซื้อสูงให้นำเงินออกมาใช้จ่ายและสนับสนุนผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม
ก่อนหน้านี้ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เคยให้ข้อมูลไว้ว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ระลอกล่าสุดนั้น จะออกมาเป็นแพ็กเกจประมาณเดือนพฤษภาคม 2564 หนึ่งในนั้นที่เป็นมาตรการใหม่เพิ่มเข้ามา คือ มาตรการสนับสนุนให้คนมีเงินออมที่มีอยู่ 6-7 แสนล้านบาท ให้ออกมาใช้จ่ายมากขึ้น
โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ เป็นโครงการที่มุ่งไปที่กลุ่มผู้มีรายได้สูง รัฐจะสนับสนุน E-Voucher สำหรับการใช้จ่าย ในเบื้องต้นคาดว่าจะไม่เกิน 7,000 บาทต่อคน ระยะเวลาโครงการจะเริ่มต้นได้เมื่อสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ แล้วไปสิ้นสุดในวันที่ 31 ธันวาคม 2564
วิธีการใช้สิทธิ์ "ยิ่งใช้ยิ่งได้"
สำหรับวิธีการใช้สิทธิ์โครงการดังกล่าว ผู้มีสิทธิ์จะต้องชำระเงินผ่าน G-Wallet บนแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง”กับผู้ประกอบการร้านค้าและบริการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT) ซึ่งติดตั้งแอปพลิเคชัน "ถุงเงิน" ที่เข้าร่วมโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ ซึ่งโครงการนี้จะช่วยกระตุ้นการบริโภคในประเทศผ่านผู้มีกำลังซื้อสูงให้นำเงินออกมาใช้จ่ายและสนับสนุนผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม
ใครมีสิทธิ์ "ยิ่งใช้ยิ่งได้"
โครงการนี้จะให้สิทธิ์แก่ประชาชนกลุ่มเป้าหมายจำนวน 4 ล้านคน โดยคาดว่าจะต้องเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติเบื้องต้น ดังนี้
- มีสัญชาติไทย
- เป็นผู้ที่มีรายได้สูง
ระยะเวลามาตรการ
ประชาชนจะได้รับการสนับสนุน E-Voucher จากภาครัฐ เริ่มให้กดรับสิทธิ์ E-Voucher ในช่วงเดือน ก.ค. - ก.ย. 2564 จากนั้นจะนำไปใช้จ่ายได้ในเดือน ส.ค. - ธ.ค. 2564 สรุปคือใช้สิทธิ์ได้ในระยะเวลาการ 5 เดือน
ที่มา : TNN ช่อง16 , กรุงเทพธุรกิจ
ภาพโดย sweclporama จาก Pixabay