“คิมซุนอ๊ก” นักเขียนบทชื่อดังกับผลงานซีรีส์แนวปั่นประสาทของเธอ

“คิมซุนอ๊ก”  ชื่อของนักเขียนบทละครวัย 52 ปี  ที่เรียบจบทางด้านภาษาและวรรณคดีเกาหลีมาโดยตรง เธอเริ่มต้นมีผลงานการเขียนบทละครให้กับสถานีโทรทัศน์เมื่อปี 2000  โดยผลงานเรื่องแรกคือการเขียนบทละครให้ช่อง MBC กับรายการ "MBC Best Theater"  

ภาพจาก : SBS

หากจะพูดถึงผลงานที่สร้างชื่อของคิมซุนอ๊กเรื่องแรกที่นึกถึงคงหนีไม่พ้น The Penthouse ซีรีส์ปั่นประสาทในตำนานที่ทำเรตติ้งได้สูงถึง 28.8% The Penthouse เป็นเรื่องราวที่เริ่มต้นมาด้วยคดีฆาตกรรมของหญิงสาวคนหนึ่งที่ตกลงมาจากชั้นสูงของเพนต์เฮาส์สุดหรูซึ่งเป็นที่อยู่ของเหล่าคนรวยและมีหน้ามีตาทางสังคม แต่ทว่าคนรวยเหล่านั้นกลับปิดบังและอำพรางศพทำให้เหมือนว่าเป็นการฆ่าตัวตัวตาย ชิมซูรยอนผู้ที่เห็นเหตุการณ์ตอนหญิงสาวตกมาจากตึกเมื่อรู้ว่าเธอไม่ได้ฆ่าตัวตายจึงได้ออกตามหาความจริงแล้วพบว่าหญิงคนนั้นคือลูกสาวของเธอ เธอจึงเริ่มต้นออกตามหาตัวฆาตกรพร้อมกับล้างแค้นคนที่ทำร้ายลูกเธอให้ได้

ความปั่นประสาทของ  The Penthouse เริ่มต้นที่การสับขาหลอกเปลี่ยนคนดีเป็นคนชั่ว เปลี่ยนคนชั่วเป็นคนดีแล้วไป ๆ มาๆ ทุกคนก็มีความเทา ๆ เหมือนกันหมด ยังไม่นับการฟื้นคืนชีพของตัวละครได้อย่างเหลือเชื่อ ซึ่งถึงแม้จะทำให้ดูแล้วปวดหัวแต่ก็เป็นที่ชื่นชอบของคนดูเช่นกันแม้ทำออกมาถึง 3 ภาคก็ได้รับความนิยมหมด 

ภาพจาก : tvN

หลังความสำเร็จของ The Penthouse ผลงานต่อมาของเธอก็คือ Pandora: Beneath the Paradise  ซีรีส์ที่พูดถึงเรื่องราวของฮงไทราหญิงสาวที่สูญเสียความทรงจำไป แต่พอฟื้นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองกลายเป็นหญิงสาวฐานะดี มีดีกรีเป็นถึงเด็กจบนอก ฮงไทราได้ไปหลงรักชายคนหนึ่งจนแต่งงานและมีลูกด้วยกัน 1 คน และในเวลาต่อมาชายคนนี้ก็กำลังจะได้เป็นว่าที่ประธานาธิบดี จึงทำให้ฮงไทรากลายเป็นว่าที่สตรีหมายเลขหนึ่งของเกาหลี แต่ทว่าในขณะที่อนาคตเธอกำลังจะไปได้ดีก็ปรากฏว่าความทรงจำของเธอก็ค่อย ๆ กลับมาจนทำให้เธอรู้ว่าแท้จริงแล้วตัวตนของเธอคือนักฆ่าและที่เธอกลายเป็นฮงไทราเพราะมีคนบงการให้มีตัวตนแบบนี้ ด้วยเหตุนี้เธอจึงต้องออกตามหาคนที่อยู่เบื้องหลังนี้ให้ได้   

สำหรับเรื่อง Pandora: Beneath the Paradise เป็นเรื่องที่ผู้เขียนตอนดูแรกๆ ไม่ได้ทราบมาก่อนเหมือนกันว่าใครเป็นคนแต่ง  แต่พอดูไปเรื่อย ๆ กลับได้กลิ่นอายของความเป็น  The Penthouse อย่างชัดเจนจนถึงกับต้องค้นหาข้อมูลดูว่าเป็นผลงานของใครกันและสุดท้ายก็ไม่ผิดคาด  เพราะเนื้อเรื่องค่อนข้างออกแนวเวอร์ไปอยู่มาก นอกจากจะมีปมนางเอกตามหาตัวตนของตัวเองแล้ว ในเรื่องยังมีเรื่องราวของชิพฝั่งสมองอัจฉริยะซึ่งเป็นเทคโนโลยีของบริษัทที่ว่าที่ประธานาธิปดีดูแลอยู่ 

ความมหัศจรรย์ของชิพนี้ก็คือถ้าเอาไปฝังในสมองก็จะสามารถความคุมร่างกายได้  คนที่เป็นอัมพาตจะกลับมาเดินได้ราวปาฏิหาริย์ก็เลยมีปมทะเลาะกันเรื่องชิพด้วย ดังนั้นถ้าใครดูเรื่องนี้ก็เตรียมสมองให้ดีๆ เพราะมีทั้งสืบสวน ดราม่า ฆาตกรรม ไซไฟ โรแมนติกจบครบ

ภาพจาก : SBS

และมาถึงผลงานล่าสุดนี้กันบ้างกับเรื่อง The Escape of the Seven เรื่องราวที่มีจุดเริ่มต้นมาจากหญิงสาวธรรมดาคนหนึ่งที่ชื่อบังดามี เธอใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับครอบครัวที่เก็บมาเลี้ยง แต่แล้ววันหนึ่งแม่ที่แท้จริงก็รับเธอไปอยู่ด้วยตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาชีวิตเธอก็เปลี่ยนไปตลอดกาล เธอถูกกล่าวหาว่าท้องในวัยเรียน สังคมและชาวเน็ตต่างรุมประจานจนสุดท้ายเธอก็ถูกฆาตกรรมร่างของเธอหายไปอย่างไร้ร่องรอย การตายของบังดามีมีเบื้องหลังเกี่ยวข้องกับคน 7 คนที่ใช้ประโยชน์จากเธอเพื่อขึ้นไปอยู่จุดสูงสุดนั่นจึงทำให้การแก้แค้นให้บังดามีจึงเกิดขึ้น 

การแก้แค้นนี้บอกเลยว่าไม่ธรรมดาเพราะนำมาซึ่งความหลอนระทึกปั่นประสาทแบบสุด ๆ ชายลึกลับผู้หนึ่งกลายร่างเป็นปีศาจเพื่อแก้แค้นให้บังดามี เขาใช้ชีวิตประหนึ่งเป็น  Game Master คอยปั่นประสาทคนทั้ง 7 ให้เหมือนพวกเขาต้องตกอยู่ในนรกแห่งเซอร์ไวเวอร์ที่ถ้าอ่อนแอ่ก็ต้องตาย เรียกว่าเรื่องนี้เป็นซีรีส์ที่ห้ามพลาดทุกวินาทีจริง ๆ ค่ะ เพราะถ้าพลาดไปนิดเดียวก็จะดูไม่รู้เรื่องทันที เช่นผู้เขียนที่ครั้งหนึ่งก็เคยผิดพลาดด้วยการดูแบบกดข้ามตอนที่ 1 ไปแบบเร็วๆ สุดท้ายก็ดูไม่รู้เรื่องต้องกลับมาเริ่มดูใหม่ 

จากผลงาน 3 เรื่องล่าสุดของ “คิมซุนอ๊ก” นี้สามารถพูดได้เลยว่าเธอยังคงลายเซ็นตัวเองได้อย่างชัดเจน  ซึ่งจากที่ดูมาทั้ง 3 เรื่องก็จะพอเดาแนวทางของเรื่องที่แต่งโดยคิมซุนอ๊กได้เลยว่า  

1. ในแต่ละเรื่องเราจะไม่สามารถเดาได้ว่าใครเป็นคนดี?  

2. เนื้อเรื่องจะต้องมีความเวอร์วัง ขาดความสมจริง 

3. การปลอมตัวต้องมา ฟื้นคืนชีพต้องไม่พลาด 

4. หัวใจหลักสำคัญของเรื่องที่ขาดไม่ได้ก็คือจะต้องมีคนตายด้วยฝีมือใครก็ไม่รู้ 

สุดท้ายนี้หากจะถามถึงคำแนะนำในการดูซีรีส์ของคิมซุนอ๊กทางเราก็ขอแนะนำง่ายๆ ว่าให้ดูไปแบบไม่ต้องคิดอะไรมากค่ะ เพราะหากจะถามหาถึงตรรกะและเหตุผลนั้นบอกเลยว่ามีน้อยมาก แต่ถ้าชอบอะไรแบบบิดเบี้ยวคุณมาถูกทางแล้ว