รีเซต

จับตาค่าระวางเรือ ทะยาน3,200จุด ชูPSLรับอานิสงส์

จับตาค่าระวางเรือ ทะยาน3,200จุด ชูPSLรับอานิสงส์
ทันหุ้น
10 พฤษภาคม 2565 ( 07:09 )
195
จับตาค่าระวางเรือ ทะยาน3,200จุด ชูPSLรับอานิสงส์

 #PSL #ทันหุ้น – จับตาค่าระวางเรือทะยาน 3,200 จุด ในเดือนมิถุนายน-กรกฎาคมนี้ รับจีนคลายล็อกดาวน์ รวมถึงการกักตุนอาหาร และจำนวนเรือขนส่งมีน้อยกว่าความต้องการ จากสงครามรัสเซียกับยูเครนที่ยืดเยื้อ คาดว่าค่าระว่างเรือมีโอกาสปรับขึ้นสูงสุดราว 3,200 จุดใน เลือกหุ้น PSL เด่น รับประโยชน์เต็มที่ พร้อมปรับประมาณการรายได้-กำไรเพิ่มขึ้น อัพราคาเป้าหมายใหม่ 24 บาทต่อหุ้น

 

นายอภิชาต  ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่าคาดแนวโน้มดัชนีค่าระวางเรือยังยืนอยู่ในระดับสูง เนื่องจากมองว่ามีปัจจัยบวกจากการที่จีนจะมีการผ่อนคลายล็อกดาวน์ ทำให้ความต้องการขนส่งสินค้าเพิ่มมากขึ้น รวมถึงการที่ราคาสินค้ามีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น ดังนั้นจึงทำให้มีการสั่งสินค้าเพื่อกักตุนไว้ก่อน จะเห็นได้ว่าการส่งออกมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น

 

ทั้งนี้ประเมินว่าดัชนีค่าระวางเรือมีโอกาสปรับขึ้นสูงสุดในช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม ซึ่งเป็นไปตามฤดูกาล โดยคาดว่ามีโอกาสที่จะปรับขึ้นไปในระดับ 3,200 จุดได้ จากปัจจุบันเคลื่อนไหวอยู่ที่ประมาณ 2,700 จุด จากปัจจัยดังกล่าวจึงมองว่าหุ้นในกลุ่มธุรกิจเดินเรือ จะได้รับปัจจัยบวก ซึ่งจะเห็นได้จากผลประกอบการของบริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSL ที่ประกาศไตรมาส 1/2565 ออกมามีกำไรเติบโตในระดับกว่า 1 พันล้านบาท

 

*PSL กำไรทะยาน

 

โดย PSL แจ้งตลาดหลักทรัพย์ว่า ในไตรมาส 1/2565 มีกำไรสุทธิ 1,293.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 431.52% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไร 375.13 ล้านบาท โดยรายได้จากการเดินเรือสุทธิสูงเกือบ 2 เท่า ซึ่งรายได้เฉลี่ยต่อวันต่อลำเรือเพิ่มขึ้นเป็น 21,995 ดอลลาร์สหรัฐ จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 12,157 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ด้านนายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า คาดว่าดัชนีค่าระวางเรือในช่วงที่เหลือปีนี้ยังมีแนวโน้มอยู่ในระดับสูง เนื่องจากสงครามรัสเซียและยูเครนที่ยืดเยื้อ ทำให้ปริมาณเรือที่ให้บริการลดลง ขณะที่ความต้องการขนส่งทางเรือยังอยู่ในระดับสูง รวมถึงตู้คอนเทนเนอร์ที่ยังขาดแคลน จึงเกิดผลดีต่อหุ้นที่ทำธุรกิจเดินเรือ

 

ซึ่งปัจจุบันนี้ฝ่ายวิจัย เคทีบีเอสที แนะนำซื้อหุ้น PSL มองว่าเป็นหุ้นเด่นของกลุ่ม โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 24 บาทต่อหุ้น เพราะมองว่าได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่จากความต้องการขนส่งทางเรือที่ยังอยู่ในระดับสูง ในส่วนของหุ้น บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA แนะนำซื้อเช่นกัน ให้ราคาเป้าหมายที่ 13 บาทต่อหุ้น แต่มองว่า TTA ทำธุรกิจที่หลากหลาย ดังนั้นจึงไม่ได้ประโยชน์จากค่าระวางเรือได้เต็มที่เหมือนกับ PSL

 

นอกจากนี้ได้ประเมินหุ้นที่เกี่ยวกับโลจิสติกส์ที่ขนส่งทางอากาศ มองว่าความน่าสนใจจะน้อยกว่า เพราะจะอิงกับการค้าโลก ซึ่งในปีนี้เศรษฐกิจโลก มีการเติบโตไม่มาก เพราะได้รับผลกระทบจากสงครามรัสเซียและยูเครน

 

*อัพกำไร-ราคา PSL

 

บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ถึง PSLว่า ได้ปรับคำแนะนำเป็นซื้อ จากเดิมแนะนำถือ พร้อมปรับราคาเป้าหมายเป็น 24 บาทต่อหุ้น จากเดิมที่ 18 บาทต่อหุ้น เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับประมาณการกำไรปี 2565 ขึ้น 34% มาอยู่ที่ 4.67 พันล้านบาท เติบโต 4% จากปีก่อน โดยได้ปรับประมาณการรายได้ขึ้น 19% ที่ 9.63 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% ประเมินว่าค่าระวางเรือยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นอีกในช่วงไตรมาส 2 และ 3 ของปีนี้ ที่เป็นไฮซีซัน นอกจากนี้ยังได้ปรับอัตรากำไรขั้นต้นขึ้นมาที่ระดับ 63.0% จากเดิมที่ 58% เพราะค่าระวางเรือที่อยู่ในระดับสูง

 

จากมุมมองว่าค่าระวางเรือในปี 2565 ทีมีโอกาสยืนอยู่ในระดับสูงตลอดทั้งปี โดยในไตรมาส 2/2565 ค่าระวางเรือได้ปรับตัวขึ้นมาแล้ว 16% แม้จีนจะยังคงมาตรการนโยบายโควิด-19 เป็นศูนย์ ทำให้ยังคงมีการล็อคดาวน์เมืองสำคัญอย่างเซี่ยงไฮ้ที่ยังมีผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ 4,982 คน ซึ่งหากสถานการณ์ในจีนคลี่คลายได้ในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม เชื่อว่าค่าระวางเรือจะยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้อีก

 

*กำไร Q1/65 ดีกว่าคาด

 

บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด  (มหาชน) ระบุว่าการที่ PSL รายงานกำไรไตรมาส 1/2565 ที่ 1,294 ล้านบาท ซึ่งดีกว่าคาด 4.8% จากต้นทุนและ SG&A ต่ำกว่าคาด ส่วนแนวโน้มไตรมาส 2/2565 คาดว่ากำไรจะยังเติบโตต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนและเทียบกับไตรมาส 1/2565 ซึ่งโดยปกติไตรมาส 1 จะเป็นไตรมาสที่อ่อนแอที่สุดของปี และดัชนีค่าระวางเรือในช่วง 1 เมษายนจนถึง 5 พฤษภาคมที่ปรับเพิ่มขึ้นและยังอยู่ในระดับสูง

 

โดยยังคงประมาณการกำไรทั้งปี 2565 ที่ 3,986 ล้านบาท ซึ่งหากเป็นไปตามฤดูกาล แนวโน้มช่วงที่เหลือยังดูดีจากฐานเริ่มต้นในไตรมาส 1/2565 ที่สูง และจะดีขึ้นเรื่อยๆ ไปสูงสุดในไตรมาส 3 และ 4 ดังนั้นจึงแนะนำทยอยซื้อ ให้ราคาเป้าหมายที่ 20.10 บาทต่อหุ้น

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง