ฝุ่น PM2.5 ปกคลุมเชียงใหม่หนาทึบ ค่ามลพิษยังไม่แผ่วติดอันดับ 3 ของโลก
วันนี้ (18 มี.ค. 67) สถานการณ์ฝุ่นเชียงใหม่ล่าสุด ยังอยู่ในภาวะวิกฤต ล่าสุด เว็บไซต์ IQAir รายงานคุณภาพอากาศของทั่วโลก เมื่อเวลา 10.00 น. พบว่า จังหวัดเชียงใหม่ ของประเทศไทย มีมลพิษสูงติดอันดับ 3 เมืองใหญ่ที่มีมลพิษมากที่สุดในโลก โดยมีค่า AQI ที่ 190 คำเตือนอยู่ในระดับสีแดง (AQI = 151-200) หรือมีผลกระทบต่อทุกคน
สถานการณ์ล่าสุดในบริเวณตัวเมืองเชียงใหม่ ยังถูกปกคลุมไปด้วยหมอกควันไฟป่าไปทั้งเมือง ไม่สามารถมองเห็นดอยสุเทพติดต่อกันมาหลายวันแล้ว โดยพื้นที่ตำบลช้างเผือก และตำบลศรีภูมิ ค่าฝุ่น PM2.5 เช้าวันนี้ อยู่ระหว่าง 87.9 – 92.2 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ลดลงมาต่ำจากเมื่อวานนี้ เล็กน้อย
ศูนย์ข้อมูลเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่รายงานคุณภาพอากาศ แบบรายชั่วโมง บริเวณบ้านหัวโท อำเภอเชียงดาวเวลา 07.00 น. ค่าฝุ่น PM2.5 สูงถึง 591 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร หรือสูงเกินถึง 15 เท่า ซึ่งค่ามาตรฐานกำหนดไว้ไม่เกิน 37.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ทำให้ประชาชนในพื้นที่อยู่อย่างยากลำบาก หายใจติดขัด ต้องหลบอยู่แต่ในบ้าน และยังต้องสวมหน้ากากป้องกันฝุ่นควัน
ขณะที่ช่วงเช้าวันนี้ พบจุดความร้อนกระจายใน 18 อำเภอ จำนวน 112 จุด พื้นที่อำเภอเชียงดาว มากที่สุด 20 จุด เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งดับไฟ ซึ่งบางพื้นที่เป็นภูเขาสูง ต้องใช้รถจักรยานยนต์ ในการขับขี่เข้าพื้นที่ ซึ่งการเดินทางเป็นไปอย่างยากลำบาก และมีความทุลักทุเลล่าช้า
สำหรับสถานการณ์ในจังหวัดแม่ฮ่องสอนนั้น พบจุดความร้อน 192 จุด มากสุดที่อำเภอเมือง 78 จุด รองลงมาที่อำเภอปาย 35 จุด นายทวีชัย กันทใจ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า เกิดไฟป่าในท้องที่ป่าบ้านห้วยเดื่อ ตำบลผาบ่อง อำเภอเมือง อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ปายฝั่งซ้ายจึงระดมกำลังเข้าดับไฟ พื้นที่ป่าถูกไฟไหม้ประมาณ 5 ไร่
ด้านนายอำเภอแม่ฮ่องสอน สั่งการให้ส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้าดับไฟป่าบริเวณด้านหลัง วัดป่าบ้านใหม่ ตำบลปางหมู, บ้านห้วยกุ้ง ตำบลห้วยปูลิง, บ้านทบศอก บ้านห้วยมะเขือส้ม ตำบลหมอกจำแป่, บ้านหัวน้ำแม่สะกึด บ้านผาบ่องเหนือ ตำบลผาบ่อง, ซึ่งมีการลักลอบเผาป่ามากที่สุด และพบว่าการเผาป่าได้มีการเริ่มเผาจากตัวหมู่บ้านออกไป เปลี่ยนมาเป็นลอบเผาจากด้านหลังเทือกเขา แล้วไฟป่าลามลงมาสู่หมู่บ้าน ทำให้ต้องเร่งดับไฟและทำแนวกันไฟป้องกันไฟป่าลามสู่บ้านเรือนประชาชน
สภาพอากาศในตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ล่าสุด หมอกควันได้ปกคลุมตัวเมืองหนาทึบ เนื่องจากยังคงมีไฟป่าในหลายพื้นที่ ที่ไม่สามารถดับได้ ส่งผลให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นต่ำลงอย่างชัดเจน
ทางด้าน GISTDA สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) เผยข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) และจากดาวเทียมอีกหลายดวง เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2567 ไทยพบจุดความร้อนทั้งประเทศ 1,874 จุด ซึ่งข้อมูลจากดาวเทียมยังระบุอีกว่าจุดความร้อนที่พบส่วนใหญ่เกิดขึ้นในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 722 จุด ตามด้วยพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 537 จุด พื้นที่เกษตร 362 จุด แหล่งชุมชนและอื่นๆ 120 จุด พื้นที่เขต สปก. 119 จุด และพื้นที่ริมทางหลวง 14 จุด สำหรับจังหวัดที่พบจำนวนจุดความร้อนสูงสุด 3 อันดับแรกได้แก่ แม่ฮ่องสอน 408 จุด เชียงใหม่ 179 จุด ตาก 117 จุด
ประเทศเพื่อนบ้านพบจุดความร้อนมากสุดอยู่ที่พม่า 5,328 จุด ตามด้วยไทย 1,874 จุด ลาว 1,348 จุด กัมพูชา 1,059 จุด และ เวียดนาม 731 จุด
ข้อมูลจาก: ผู้สื่อข่าวภูมิภาคเชียงใหม่
ภาพจาก: ผู้สื่อข่าวภูมิภาคเชียงใหม่