เกาะติดสถานการณ์ 'รัสเซีย-ยูเครน' (7 ก.ย.2565)

รัสเซียแบนชาวอเมริกัน 25 คน รวม "ฌอน เพนท์" และ "เบน สติลเลอร์" จากสนับสนุนยูเครน

รัสเซียประกาศคว่ำบาตรดาราฮอลลีวู้ดชื่อดัง 2 คน คือ ‘ฌอน เพนน์’ และ ‘เบน สติลเลอร์’ สั่งห้ามเดินทางเข้ารัสเซียแบบถาวร ฐานสนับสนุนยูเครนและต่อต้านปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในยูเครน

กระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย ประกาศคว่ำบาตรชาวอเมริกันรอบใหม่ จำนวน 25 คน เมื่อวันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งนอกจาก ‘เพนน์’ และ ‘สติลเลอร์’ แล้ว ยังมีนักการเมือง นักวิชาการ และเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ ถูกห้ามเข้ารัสเซียถาวรด้วย
‘เพนน์’ และ ‘สติลเลอร์’ ออกมาวิจารณ์ปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในยูเครน โดยเพนน์เดินทางไปยูเครนเพื่อถ่ายทำสารคดีเกี่ยวกับปฎิบัติการทางทหารของรัสเซียในยูเครน และ เคยระบุว่าพิจารณาเข้าร่วมกองกำลังยูเครนเพื่อต่อสู้กับรัสเซีย  ขณะที่สติลเลอร์เป็นทูตสันถวไมตรีของข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ เคยเดินทางไปยูเครนเนื่องในวันผู้ลี้ภัยโลก กล่าวชื่นชมยกย่องประธานาธิบดี ‘โวโลดิมีร์ เซเลนสกี’ ว่าเป็นวีระบุรุษ

ปูตินอนุมัตินโยบายต่างประเทศใหม่ ชูหลักการ "โลกของรัสเซีย"

ผู้นำรัสเซียอนุมัติหลักการใหม่ของนโยบายต่างประเทศ อยู่บนพื้นฐานของแนวคิดที่เรียกว่า "Russian World" หรือโลกของรัสเซีย 

ชูหลักการ "โลกของรัสเซีย"

เมื่อวันจันทร์ (5 กันยายน) ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย ได้อนุมัติหลักการใหม่ของนโยบายต่างประเทศ โดยอยู่บนพื้นฐานของแนวคิดที่เรียกว่า “Russian World” หรือโลกของรัสเซีย นโยบายมนุษยธรรมที่ว่านี้มีความยาว 31 หน้า ระบุว่า รัสเซียควรต้องปกป้อง คุ้มครอง และส่งต่อธรรมเนียมและอุดมคติโลกของรัสเซีย

หลักการดังกล่าวเอ่ยถึงยุทธศาสตร์ด้านอำนาจอ่อน หรือ soft power และยังเน้นถึงนโยบายทางการเกี่ยวกับการเมืองและศาสนาของรัสเซีย ซึ่งมักมีการใช้อ้างอิง เมื่อรัสเซียต้องการสนับสนุนกลุ่มชนที่พูดภาษารัสเซียและต้องการแยกตัวออกมาจากยูเครน
นโยบายดังกล่าวระบุว่า สหพันธรัฐรัสเซียนั้นให้การสนับสนุนผู้รักชาติที่อาศัยในต่างแดน ในการทำตามสิทธิของตนเอง และจะปกป้องผลประโยชน์ของพวกเขา ตลอดจนการรักษาอัตลักษณ์วัฒนธรรมรัสเซียด้วย

นอกจากนี้ ยังระบุว่า สายสัมพันธ์ที่รัสเซียมีกับผู้รักชาติเหล่านี้ เปิดทางให้รัสเซียสามารถยกระดับภาพลักษณ์บนเวทีโลก ในฐานะชาติประชาธิปไตยที่กำลังสร้างโลกหลายขั้ว

ทั้งนี้ หลายปีที่ผ่านมา ปูตินมักกล่าวถึงชะตากรรมที่เลวร้ายของผู้ที่มีเชื้อสายรัสเซียราว 25 ล้านคนที่อยู่ ในรัฐใหม่ ๆ ที่เพิ่งเป็นอิสระหลังสหภาพโซเวียตล่มสลายในปี 1991 ซึ่งปูตินเรียกว่า เป็นหายนะทางภูมิรัฐศาสตร์

รักษาพื้นที่อิทธิพลอดีตสหภาพโซเวียตเดิม

ขณะเดียวกัน รัสเซียยังต้องการรักษาพื้นที่อิทธิพลของอดีตสหภาพโซเวียตเดิม ตั้งแต่แถบบอลติกไปจนถึงเอเชียกลาง แต่หลายประเทศต่อต้าน รวมถึงชาติตะวันตก

ในหลักการใหม่ของปูติน ยังกำหนดว่า รัสเซียควรเพิ่มความร่วมมือกับกลุ่มชาติสลาฟ จีน อินเดีย และกระชับความสัมพันธ์มากขึ้น กับชาติในตะวันออกกลาง ลาตินอเมริกา รวมถึงแอฟริกา

นอกจากนี้ ยังกำหนดด้วยว่า รัสเซียควรกระชับความสัมพันธ์มากขึ้นกับอับคาเซียและออสเซเทีย สองแคว้นของจอร์เจียที่รัสเซียรับรองเอกราชให้ หลังทำสงครามกับจอร์เจียในปี 2008 ตลอดจน สองสาธารณรัฐประชาชนโดเนสตก์และลูฮันสก์ ของยูเครน ที่ประกาศเอกราชแยกตัวตัวจากยูเครนเมื่อไม่นานมานี้

โลกกำลังเผชิญพายุครั้งใหม่ 

ขณะเดียวกัน เมื่อวานนี้ (5 กันยายน) รัฐบาลรัสเซียยังเตือนด้วยว่า โลกกำลังจะเผชิญพายุครั้งใหญ่ โดยดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวกับสำนักข่าว TASS ว่า พายุลูกใหญ่ของโลกกำลังก่อตัวขึ้น ซึ่งเกิดจากการตัดสินใจและการกระทำที่ไร้เหตุผลโดยสิ้นเชิง และบางครั้งก็ไร้สาระ ของทางการในสหรัฐฯ อียู และประเทศยุโรปบางประเทศ

เปสคอฟอ้างว่า การคว่ำบาตรของสหรัฐฯ อียู และบางชาติอื่น ๆ ต่อรัสเซียนั้น ส่งผลสะท้อนกลับ ทำให้ราคาพลังงานพุ่งสูง และอัตราเงินเฟ้อสูงเป็นประวัติการณ์ในชาติตะวันตก แต่ในสถานการณ์เช่นนี้ รัสเซียยังสามารถรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาคไว้ได้อยู่ เป็นผลจากการทำงานที่ต่อเนื่อง คิดถี่ถ้วนมาอย่างดี และหนักแน่น 

เขากล่าวว่า โลกตะวันตกพยายามจำกัดรัสเซีย ดังนั้น ความสัมพันธ์ทางการค้าและเศรษฐกิจของรัสเซีย จะมุ่งไปที่โลกตะวันออกมากขึ้น 

แต่เขาเน้นย้ำว่า อันที่จริงแล้ว ไม่ใช่ว่ารัสเซียเพิ่งหันมาหาตะวันออกตอนนี้ แต่ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกนั้นเป็นส่วนประกอบที่สำคัญมากมาตลอด สำหรับการค้าและความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ ตลอดจนการหารือเรื่องพลังงานและเรื่องอื่น ๆ ด้วย

ข้อมูล TNN World

ภาพ: Reuters