รีเซต

ข่าวนี้จริงไหม?... ห้ามใช้ดอกไฮเดรนเยีย ประดับเค้ก ?

ข่าวนี้จริงไหม?... ห้ามใช้ดอกไฮเดรนเยีย ประดับเค้ก ?
TNN ช่อง16
10 กันยายน 2566 ( 09:51 )
113
ข่าวนี้จริงไหม?... ห้ามใช้ดอกไฮเดรนเยีย ประดับเค้ก ?

รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและกิจการเพื่อสังคม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ให้ความเห็นตรงกับโพสต์ดังกล่าวว่า ไม่ควรนำ "ดอกไฮเดรนเยีย" มาใช้ประดับเค้ก เนื่องจากเป็นดอกไม้มีพิษและเป็นดอกไม้กินไม่ได้ พร้อมทั้งเปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจว่า "ดอกไฮเดรนเยีย" สร้างสารเคมีหลายกลุ่มเหมือนกับดอกไม้ทั่วไป แต่จะผลิตสาร "ไกลโคไซด์" ชนิดหนึ่งที่เชื่อมโยงไปถึง "ไฮโดรเจนไซยาไนด์" และทุกส่วนของต้น "ไฮเดรนเยีย" สามารถผลิตสาร "ไซยาไนด์" ซึ่งเป็นพิษต่อร่างกาย  แม้ผลวิจัยจะระบุว่า "ดอกไฮเดรนเยีย" ผลิต "ไซยาไนด์" จำนวนน้อย แต่ก็ไม่ควรนำมาใช้กับของกิน หากใช้จัดแจกัน ทำช่อดอกไม้ จะเหมาะสมมากกว่า



รศ.ดร.วีรชัย ระบุเพิ่มเติมว่า "ดอกไฮเดรนเยีย" จะอันตรายต่อเมื่อกินเข้าไปในร่างกายเป็นจำนวนมาก คนหนึ่งอาจจะต้องกินเข้าไปเป็นตัน หรือ 1,000 กิโลกรัม ถึงจะถึงขั้นเสียชีวิตในครั้งเดียว  แต่มีข้อควรระวังอยู่เพราะ "ไซยาไนด์" เป็นสารพิษใกล้ตัวแฝงอยู่ในชีวิตประจำวัน ถ้าไม่ระวังก็อาจจะส่งผลต่อชีวิตได้ สามารถพบสาร "ไซยาไนด์" ได้ในพืชธรรมชาติ เช่น หน่อไม้ดิบ มันสำปะหลังดิบ เมล็ดอัลมอนด์ เมล็ดฝรั่ง และ ใบยาสูบในบุหรี่ เป็นต้น ซึ่งพืชเหล่านี้ต้องกินในปริมาณมาก ถึงจะเสี่ยงต่อชีวิตเช่นกัน



ถ้าหากร่างกายได้รับ "สารไซยาไนด์" เข้าไปในปริมาณน้อยจะถูกขับออกทางปัสสาวะ แต่หากร่างกายมีการสะสม "สารไซยาไนด์" ซึ่งเกิดจากการรับประทานพืช หรือ ดอกไม้ที่ผลิตสารพิษกลุ่มนี้ต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน อาจจะเกิด "ภาวะเป็นพิษแบบเรื้อรัง" ได้ ซึ่งจะทำให้มีอาการชา คลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียนศรีษะ หากไม่ได้รับการรักษา อาจจะส่งผลทำให้เสียชีวิต




รศ.ดร.วีรชัย มีข้อแนะนำเพิ่มเติม สำหรับผู้ที่ชื่นชอบดอกไม้และอยากนำมาประดับหน้าเค้กให้ปลอดภัย ห่างไกลจากสารพิษ ควรใช้ดอกไม้กินได้ที่มีอยู่ทั่วไปมาใช้ประดับขนมเเทน  หรือ หากจำเป็นต้องประดับ "ดอกไฮเดรนเยีย" จริง ๆ เพราะความหมายดี ก็อาจจะใช้ครีมแต่งหน้าเค้กทำเลียนแบบขึ้นมาแทน



ทั้งนี้ "ไซยาไนด์" เป็นสารเคมีที่มีความเป็นพิษสูง หากร่างกายได้รับ "ไซยาไนด์" ในปริมาณ 50 มิลลิกรัมขึ้นไป ก็จะเข้าไปยับยั้งการทำงานของเซลล์ร่างกาย ทำให้ร่างกายขาดออกซิเจน และถึงขั้นเสียชีวิต





เรียบเรียงโดย : ธัญญาพร สุวรรณรัตน์

ผู้สื่อข่าว คอลัมน์ ข่าวนี้จริงไหม ?

 


ที่มาภาพนิ่ง

ช่างภาพ TNN

ข่าวที่เกี่ยวข้อง