สุพรรณบุรีในวังวนพลุระเบิด ย้อนรอยความสูญเสียที่ไม่เคยจบ

วังวนของความสูญเสีย
เหตุการณ์พลุระเบิดในบ้านพักกลางชุมชนบ้านโพธิ์ท่าทราย จังหวัดสุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 ไม่ใช่ครั้งแรก และน่าเศร้าที่อาจไม่ใช่ครั้งสุดท้าย ความสูญเสียจากวัตถุระเบิดที่ควบคุมไม่ได้ได้เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าในจังหวัดเดียวกัน ราวกับบทเรียนที่ไม่เคยถูกเรียนรู้จนจบ
ครั้งนี้ พลุที่ถูกลักลอบผลิตภายในบ้านพักระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 9 ราย บาดเจ็บสาหัส 1 ราย โดยหนึ่งในผู้เสียชีวิตเป็นหญิงตั้งครรภ์ใกล้คลอด แรงระเบิดทำให้บ้านทั้งหลังพังยับเยิน ชิ้นส่วนวัตถุระเบิดกระจายไปไกลถึงนาข้าวข้างบ้าน บ่งบอกถึงระดับความรุนแรงของวัตถุที่ถูกผลิตโดยไม่ได้รับอนุญาต
โศกนาฏกรรมที่ไม่เคยจางหาย
สุพรรณบุรีไม่ใช่เพิ่งพบเจอกับภัยจากพลุระเบิด หากแต่เป็นพื้นที่ที่มีประวัติของโศกนาฏกรรมทำนองเดียวกันซ้ำแล้วซ้ำเล่าในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา
- มกราคม 2555 ระหว่างงานตรุษจีนที่อุทยานมังกรสวรรค์ พลุไพโรเทคนิคพุ่งผิดทิศ ตกใส่กองพลุสำรอง เกิดระเบิดรุนแรง บ้านเรือนพังเสียหายกว่า 50 หลัง เสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บ 75 ราย
- พฤศจิกายน 2565 โรงงานผลิตพลุในตำบลศาลาขาว เกิดระเบิด เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 4 ราย
- มกราคม 2567 โรงงานเดิมกลับมาเปิดอีกครั้ง และเกิดระเบิดซ้ำ เสียชีวิต 23 ราย บาดเจ็บ 7 ราย
- กรณีก่อนหน้าในปี 2549 และ 2558 ยังมีรายงานเหตุพลุระเบิดในหมู่บ้านเดียวกับเหตุการณ์ล่าสุด
โศกนาฏกรรมเหล่านี้ล้วนเกิดจากปัจจัยร่วมที่คล้ายกัน นั่นคือการผลิตพลุในพื้นที่ชุมชน การเก็บวัตถุดิบที่ติดไฟง่าย และการขาดระบบควบคุมอย่างรัดกุมจากภาครัฐ
โครงสร้างที่ยังมีช่องว่าง
แม้จังหวัดจะมีระบบออกใบอนุญาตโรงงานผลิตพลุอย่างเป็นทางการ และปัจจุบันมีผู้ได้รับอนุญาตอยู่ 8 ราย แต่เหตุการณ์ที่เกิดซ้ำกลับเกิดในบ้านพักหรือสถานประกอบการที่ไม่มีใบอนุญาต นั่นหมายความว่ากลไกการกำกับดูแลไม่สามารถตรวจจับการลักลอบผลิตในระดับชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรียอมรับว่า บ้านที่เกิดเหตุไม่มีใบอนุญาต และเป็นการผลิตโดยบุคคลในครอบครัวเดียวกัน เขายังระบุว่าการลักลอบผลิตมักดำเนินการอย่างลับๆ ยากแก่การตรวจสอบ จึงต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชนในการแจ้งเบาะแส
ความรู้ ความเข้าใจ และความเงียบ
เสียงระเบิดที่พรากชีวิตผู้บริสุทธิ์ 9 รายออกไปในพริบตา ตอกย้ำคำถามถึงการจัดการความรู้ด้านความปลอดภัยในระดับชุมชน ชาวบ้านหลายรายให้ข้อมูลว่าไม่รู้ว่ามีการผลิตพลุในละแวกใกล้เคียง บางคนเพียงได้ยินเสียงเครื่องมือแต่ไม่คิดว่าจะเป็นวัตถุอันตรายระดับนี้
ความเงียบของชุมชนบางครั้งไม่ได้เกิดจากความเพิกเฉย หากแต่เกิดจากการไม่ตระหนักรู้ถึงความเสี่ยง หรือการกลัวผลกระทบหากเปิดเผยข้อมูล ความเข้าใจผิดเหล่านี้คือสิ่งที่ภาครัฐต้องเข้ามาเติมเต็มด้วยการให้ข้อมูลที่ถูกต้องและสร้างความไว้วางใจ
คำถามสำคัญหลังเหตุการณ์คือ เมื่อใดสุพรรณบุรีจะปลอดภัยจากพลุระเบิดเสียที วังวนของโศกนาฏกรรมอาจไม่สิ้นสุด หากรัฐยังคงใช้มาตรการเดิมโดยไม่พัฒนาแนวทางใหม่ให้ครอบคลุมพื้นที่เสี่ยงอย่างแท้จริง
การจัดระเบียบผู้ประกอบการ การตรวจสอบเชิงรุก และการใช้เทคโนโลยีในการติดตามวัตถุอันตรายอาจเป็นเพียงส่วนหนึ่งของคำตอบ แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในระดับรากหญ้า ที่ไม่ปล่อยให้ภัยแฝงแปรเปลี่ยนเป็นโศกนาฏกรรมอีกครั้ง
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
