รีเซต

รถไฟสายใหม่สุพรรณฯ–บ้านภาชี เปิดแผนเชื่อมราง ขนส่งไม่ผ่านกรุงเทพฯ

รถไฟสายใหม่สุพรรณฯ–บ้านภาชี เปิดแผนเชื่อมราง ขนส่งไม่ผ่านกรุงเทพฯ
TNN ช่อง16
3 มิถุนายน 2568 ( 12:05 )
12

รฟท.เผยผลศึกษาโครงการรถไฟสายใหม่ “สุพรรณบุรี–บ้านภาชี” เตรียมเสนอ ครม.ปี 2571 ชูศักยภาพลดขนส่งถนน เชื่อมอุตสาหกรรมภาคกลางสู่ท่าเรือ


โครงการรถไฟสายใหม่ แก้ปัญหาคอขวด เพิ่มขีดความสามารถขนส่ง

การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เดินหน้าผลักดันแผนโครงการรถไฟทางคู่สายใหม่ ช่วงสุพรรณบุรี – นครหลวง – ชุมทางบ้านภาชี หลังได้ข้อสรุปการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบเบื้องต้น พร้อมคัดเลือกแนวเส้นทางที่ได้รับคะแนนประเมินสูงสุด โดยตั้งเป้าดำเนินการก่อสร้างในปี 2572 และเปิดให้บริการในปี 2576 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งสินค้าทางรางจากภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือสู่ภาคใต้โดยไม่ผ่านกรุงเทพฯ

แผนการนี้ถูกออกแบบมาเพื่อขยายทางเดี่ยวเดิมที่ใช้ระหว่างสุพรรณบุรี-หนองปลาดุกให้เป็นทางคู่ แก้ปัญหาคอขวด และลดภาระการขนส่งทางถนนในพื้นที่สามจังหวัดหลัก ได้แก่ สุพรรณบุรี อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา โดยครอบคลุมพื้นที่เวนคืนกว่า 3,400 ไร่ และต้องรื้อย้ายสิ่งปลูกสร้างประมาณ 161 หลัง

โครงข่ายใหม่ในระบบราง ทางเลือกที่ 3 ได้คะแนนสูงสุด

จากการศึกษาทางเลือกแนวเส้นทาง พบว่า “ทางเลือกที่ 3” เป็นแนวที่เหมาะสมที่สุด โดยเริ่มต้นจากสถานีสะแกย่างหมู มุ่งหน้าไปทางทิศเหนือ ก่อนเบี่ยงออกจากทางเดิมบริเวณถนนเลี่ยงเมืองสุพรรณบุรี แล้วมุ่งหน้าไปทางตะวันออก ข้ามแม่น้ำท่าจีนและแม่น้ำหลายสาย รวมถึงพื้นที่รับน้ำและพื้นที่เกษตรกรรมที่สำคัญ ก่อนเข้าสู่พื้นที่อุตสาหกรรมและท่าเรือในเขตอำเภอนครหลวง และเชื่อมต่อกับทางรถไฟเดิมที่สถานีบ้านภาชี

โครงการนี้จะมีสถานีหลัก 4 แห่ง คือ สะแกย่างหมู, สุพรรณบุรี (ใหม่), บ้านกุ่ม และบางปะหัน พร้อมลานเก็บตู้คอนเทนเนอร์อีก 3 จุด ซึ่งมีความสำคัญในการรองรับปริมาณสินค้าที่ต้องขนส่งจำนวนมากจากภาคกลางไปยังท่าเรือแหลมฉบัง และเส้นทางภาคใต้โดยตรง

ลดต้นทุน เพิ่มโอกาสเศรษฐกิจท้องถิ่น

หนึ่งในเป้าหมายของโครงการคือการกระจายการขนส่งออกจากกรุงเทพฯ โดยไม่ต้องผ่านโหนดหลักอย่างบางซื่อ ซึ่งมักประสบปัญหาความแออัด ทั้งยังช่วยลดต้นทุนขนส่งโลจิสติกส์ และลดปริมาณรถบรรทุกบนถนนสายหลัก

รฟท.ระบุว่า การลงทุนในเส้นทางนี้จะทำให้ประชาชนในพื้นที่มีทางเลือกในการเดินทางที่ปลอดภัยขึ้น รวมถึงเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งค้าขายและกระจายสินค้าทางการเกษตร และอาจส่งผลบวกต่อราคาสินค้าในภูมิภาคได้ในระยะยาว

กรอบเวลาและแผนดำเนินการ

โครงการรถไฟสายใหม่นี้จะใช้กรอบเวลาแบ่งเป็น 4 ระยะหลัก ได้แก่

 • การออกแบบและทำรายงาน EIA: พ.ศ. 2568–2569

 • เสนอรายงานต่อ ครม.: พ.ศ. 2570

 • ขออนุมัติโครงการและเริ่มก่อสร้าง: พ.ศ. 2571–2572

 • เปิดให้บริการ: พ.ศ. 2576

ด้วยวงเงินออกแบบในเบื้องต้น 57 ล้านบาท และงบก่อสร้างเต็มรูปแบบที่ยังอยู่ระหว่างการประเมิน

เชื่อมไทยสู่อนาคตด้วยระบบราง

เส้นทางใหม่ระหว่างสุพรรณบุรีถึงบ้านภาชี ไม่เพียงเพิ่มทางเลือกในการเดินทางของประชาชนและการขนส่งสินค้า แต่ยังสะท้อนถึงแนวทางการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของประเทศไทยที่เริ่มให้ความสำคัญกับ “ระบบราง” เป็นหัวใจหลัก

การเชื่อมโยงพื้นที่อุตสาหกรรมเข้ากับเส้นทางขนส่งใหญ่ โดยไม่ต้องผ่านจุดแออัดเดิม ถือเป็นทิศทางที่เหมาะสมในโลกที่การแข่งขันด้านต้นทุนและเวลาเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะในยุคที่ไทยกำลังปรับตัวเข้าสู่เศรษฐกิจฐานการผลิตและการส่งออกที่ต้องมีประสิทธิภาพมากขึ้น



สรุปประเด็น 300 ตัวอักษร




Tags



Key Values



ที่มาภาพ 

ที่มาของข้อมูล TNN

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง