ยอมตาย ดีกว่าเป็นทาส คำสัตย์ทหาร ร.31 รอ. ที่ยึดมั่นเหนือชีวิต

“ยอมตาย ดีกว่าเป็นทาส” คำสัตย์แห่งศักดิ์ศรีของร.31 รอ.
ในสถานการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา ชื่อของกรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ (ร.31 รอ.) ได้ถูกยกย่องในฐานะหน่วยรบแนวหน้า ที่ไม่เพียงแต่แสดงแสนยานุภาพ แต่ยังประกาศจิตวิญญาณนักรบผ่านคำสัตย์ที่ตราตรึงใจคนไทยทั้งแผ่นดิน
“ยอมตาย ดีกว่าเป็นทาส”
ไม่ใช่เพียงคำขวัญ แต่คือหลักการที่ทหาร ร.31 รอ. ยึดถือมาตลอด เป็นเครื่องเตือนใจในการปฏิบัติหน้าที่ท่ามกลางอันตรายและแรงกดดัน พวกเขาเชื่อว่าอิสรภาพของชาติ ศักดิ์ศรีของประชาชน และความเป็นไทย ต้องได้รับการปกป้องด้วยชีวิต หากจำเป็น
ความหมายของคำสัตย์ที่กลายเป็นสัญลักษณ์
- เป็นคำประกาศอุดมการณ์ของหน่วยรบ ว่าทหารพร้อมพลีชีพเพื่อชาติ
- สะท้อนความกล้าหาญ ความจงรักภักดี และความเสียสละเหนือสิ่งอื่นใด
- เป็นแรงบันดาลใจให้สังคมไทยเคารพในภารกิจของทหาร
คำสัตย์นี้ไม่ได้อยู่เพียงในพิธีกรรมหรือเอกสาร แต่ปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจนในการปฏิบัติจริง โดยเฉพาะในสถานการณ์ชายแดนที่เข้มข้นในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม 2568
5 นาทีสุดท้ายแห่งศักดิ์ศรี วีรกรรมที่ “ปราสาทตาควาย”
ค่ำคืนวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ณ แนวชายแดนไทย-กัมพูชา เหล่าทหารจาก ร.31 รอ. ตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน ก่อนเวลาหยุดยิงจะมีผลในเวลาอีกไม่กี่นาที พวกเขาตัดสินใจ “ลุกออกจากที่กำบัง” ฝ่าดงกระสุนในพื้นที่เปิด พร้อมตะโกนว่า
“ร.31 ขอแลก!”
“ยอมตาย ดีกว่าเป็นทาส!”
การกระทำนี้ไม่เพียงเบี่ยงเบนความสนใจศัตรู แต่ยังเปิดโอกาสให้ฝ่ายไทยสามารถโจมตีเป้าหมายสำคัญของฝ่ายตรงข้าม ทำลายยุทโธปกรณ์ และรักษาธงชาติไทยไว้เหนือพื้นที่ยุทธศาสตร์ “ปราสาทตาควาย” อย่างกล้าหาญ
ความหมายเชิงสถาบัน ทหารพระราชาผู้กล้า
ยืนยันอธิปไตยอย่างแน่วแน่
คำสัตย์นี้แสดงถึงความเด็ดเดี่ยวว่า ทหาร ร.31 รอ. จะไม่ยอมศิโรราบ ไม่ว่าจะเผชิญแรงกดดันใด
เสียสละเพื่อชาติและพระมหากษัตริย์
ทหาร ร.31 รอ. คือทหารของพระราชา ที่ยึดมั่นในเกียรติแห่งภารกิจอันศักดิ์สิทธิ์ของตน
ตำนานที่สังคมไทยจารึก
คำว่า “ยอมตาย ดีกว่าเป็นทาส” ไม่ได้เป็นเพียงวลีในสนามรบ แต่กำลังกลายเป็นตำนานที่สังคมไทยกล่าวขาน เป็นเกียรติประวัติที่ปลูกฝังสำนึกแห่งการเสียสละให้คนรุ่นหลัง
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
