รีเซต

บอร์ด PPP อนุมัติเอกชนร่วมทุนปรับปรุงท่าเรือแหลมฉบังมูลค่า 1.28 หมื่นล้าน

บอร์ด PPP อนุมัติเอกชนร่วมทุนปรับปรุงท่าเรือแหลมฉบังมูลค่า 1.28 หมื่นล้าน
ทันหุ้น
7 พฤษภาคม 2568 ( 13:26 )
7

 

บอร์ด PPP อนุมัติเอกชนร่วมทุนปรับปรุงท่าเรือแหลมฉบังบี 1 และ บี 2 มูลค่า 1.28หมื่นล้าน เพื่อเพิ่มศักยภาพของท่าเรือระดับภูมิภาค พร้อมปรับปรุงแผนร่วมทุนปี 63-70 จำนวน 139 โครงการ มูลค่า 9.21แสนล้าน เพื่อให้สอดคล้องกับความพร้อมของแต่ละโครงการและเป็นปัจจุบัน

 

#ทันหุ้น นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า คณะกรรมการร่วมภาครัฐกับเอกชนหรือPPPที่จัดประชุมครั้งที่ 1 ปี 2568 เมื่อวันที่ 6พ.ค.ที่ผ่านมา ได้เห็นชอบโครงการปรับปรุงท่าเทียบเรือแหลมฉบัง บี 1 และบี 2 มูลค่าการลงทุน 1.28หมื่นล้านบาท เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของท่าเรือแห่งนี้ ที่ถือว่าเป็นท่าเรือที่ใหญ่ในระดับภูมิภาค

 

“คณะกรรมการ PPP ได้เห็นชอบหลักการโครงการท่าเทียบเรือ บี1 และ บี2ท่าเรือแหลมฉบังของการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) โดยเป็นการควบรวม 2ท่าเทียบเรือเข้าด้วยกัน ซึ่งเป็นการเพิ่มความยาวหน้าท่าของท่าเทียบเรือ เพื่อให้สามารถรองรับเรือได้อย่างมีประสิทธิภาพและยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น”

 

โครงการดังกล่าวจะเปิดให้เอกชนร่วมลงทุนโครงการในรูปแบบ PPP Net Cost มูลค่าโครงการรวม 12,819ล้านบาท ซึ่งเอกชนจะรับผิดชอบการปรับปรุงสิ่งปลูกสร้าง ลงทุนจัดหาอุปกรณ์ เครื่องมือและเทคโนโลยีสำหรับการยกขนสินค้า ตลอดจนรับผิดชอบในการดูแลบำรุงรักษา และบูรณะสิ่งปลูกสร้าง เครื่องจักร รวมถึงการบริหารจัดการโครงการ ขณะที่ กทท. จะกำกับดูแลและติดตามตรวจสอบคุณภาพการดำเนินงานของภาคเอกชน และได้รับค่าผลประโยชน์ตอบแทนเป็นรายปีตามเงื่อนไขที่กำหนด

 

ทั้งนี้ โครงการนี้มีความสอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13หมุดหมายที่ 5ที่มุ่งให้ไทยเป็นประตูการค้าการลงทุนและยุทธศาสตร์ทางโลจิสติกส์ที่สำคัญของภูมิภาค โดยโครงการจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานจากการใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ และทำให้สามารถรองรับปริมาณตู้สินค้าได้มากขึ้น ตลอดจนสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่ต้องการผลักดันเศรษฐกิจไทยให้เติบโตได้อย่างเต็มศักยภาพ

 

นอกจากนี้ คณะกรรมการ PPP ยังได้เห็นชอบการปรับปรุงแผนการจัดทำโครงการร่วมลงทุนปี 2563 – 2570 (แผนร่วมลงทุนฯ) เพื่อให้สอดคล้องกับความพร้อมของแต่ละโครงการและเป็นปัจจุบัน โดยมีรายการโครงการที่ประสงค์จะดำเนินการในรูปแบบ PPP รวม 139โครงการ มูลค่ารวม 9.21แสนล้านบาท

 

ทั้งนี้ แผนร่วมลงทุนฯ ข้างต้น จะเป็นกรอบทิศทางการจัดทำโครงการ PPP ของประเทศที่ชัดเจน และจะช่วยสร้างความสนใจ และดึงดูดให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุนในโครงการของรัฐมากขึ้น โดยแผนร่วมลงทุนฯฉบับนี้ได้ครอบคลุมถึงโครงการเชิงสังคมในด้านต่างๆ เพิ่มมากขึ้น เช่น ด้านสาธารณสุข และด้านการจัดการน้ำและบำบัดน้ำเสีย เป็นต้น อีกทั้งคณะกรรมการ PPP ยังได้เร่งรัดโครงการร่วมลงทุนต่างๆ ให้สามารถเปิดให้บริการได้ตามแผนงาน เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการสาธารณะได้สะดวกและรวดเร็วมากขึ้น

 

ปัจจุบันท่าเทียบเรือ บี 1บริหารและประกอบการโดยบริษัทแอลซีบี คอนเทนเนอร์ เทอนมินัล 1 จำกัด โดยสัญญาบริหารมีผลบังคับเมื่อ พ.ย. ปี 2538 อายุสัญญา 27 ปี ,มีความยาวหน้าท่า 300 เมตร ,มีความลึก 14เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง,มีสมรรถวิสัยในการรับเรือตู้สินค้าขนาด 50,000 DWT และสามารถให้บริการขนตู้สินค้าและรับตู้สินค้า ได้ปีละ 6 แสน TEU

 

ส่วนท่าเทียบเรือ บี 2บริหารโดยบริษัท เอเวอร์กรีน คอนเทนเนอร์ เทอร์มินัล (ประเทศไทย) จำกัด ท่าเทียบเรือแหลมฉบัง B2เริ่มดำเนินการในปี 2536 อายุสัญญา 27 ปี ครอบคลุมพื้นที่ให้บริการ 105,000 ตร.ม. ความสามารถในการรับตู้คอนเทนเนอร์ ได้ถึง 600,000 ทีอียูต่อปี ,มีสมรรถวิสัยในการรับเรือตู้สินค้าขนาด 50,000 DWT มีความยาวหน้าท่า 300 เมตร ,มีความลึก 14เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง