NRFฟันด์นอกซื้อบิ๊กล็อต แพลนต์เบสผลิต ก.ค.
NRF เผยกองทุนต่างชาติดีลซื้อหุ้นคาดปิดดีลเร็วๆ นี้ เชื่อมั่นศักยภาพการเติบโตระยะยาว จ่อปิดดีลโปรตีนพืชเพิ่ม เผยโรงงานร่วมทุนกับ ปตท. แล้วเสร็จกรกฎาคมนี้ ปิดดีลร้านสะดวกซื้ออังกฤษใน 3 สัปดาห์
นายแดน ปฐมวาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ NRF เปิดเผยว่า บริษัทได้รับความสนใจจากนักลงทุนสถาบัน ต่างประเทศ ที่ต้องการซื้อหุ้นล็อตใหญ่ (Biglot) ของบริษัท คาดว่าจะปิดดีลในเร็วๆ นี้ ทั้งนี้กองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนที่ลงทุนในธุรกิจอาหาร และมีพอร์ตการลงทุนมูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท ทั่วภูมิภาคเอเชีย และยังมีโอกาสที่จะสร้างการเติบโตร่วมกันของบริษัทที่ลงทุน หรือการเป็น Synergic Partner กัน มีโอกาสในการขยายสัดส่วนการลงทุนเพิ่มด้วย พร้อมกันนี้ยังมีกองทุนต่างประเทศกองอื่นที่สนใจจะลงทุนเพิ่มอีกด้วย
*จ่อปิดดีลซูเปอร์มาร์เก็ต
พร้อมกันนี้ เตรียมปิดดีลซูเปอร์มาร์เก็ตสำหรับคนเอเชีย ในประเทศอังกฤษ อีก 1 แห่ง ภายใน 2-3 สัปดาห์ มียอดขายราวปีละ 20 ล้านปอนด์ หรือราว 800 ล้านบาท ภายในปีหน้าจะมีสาขารวมกันกว่า 10 สาขา และสามารถที่จะพัฒนาให้มีลูกค้าเข้าเพิ่มขึ้นได้ เป็นการช่วยส่งเสริมธุรกิจผลิตสินค้าของบริษัท เช่น เครื่องปรุงรส โปรตีนจากพืช และสินค้าอื่นๆ เพื่อส่งให้กับซูเปอร์มาร์เก็ตวางขายด้วย รวมไปถึงบริษัทจะได้รับออเดอร์ผลิตสินค้าเฮาส์แบรนด์ซึ่งจะมีมาร์จิ้นที่สูงมากขึ้น ทั้งนี้เงินลงทุนต่อสาขาก็จะอยู่ที่ 5-10 ล้านปอนด์
ขณะที่ความคืบหน้าบริษัทร่วมทุนระหว่าง บริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด (บริษัทย่อยที่ PTT ถือหุ้น 100%) และ บริษัท โนฟ ฟู้ดส์ จำกัด (บริษัทย่อยที่ NRF ถือหุ้น 100%) พัฒนาและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารโปรตีนจากพืชแบบครบวงจร และได้มีการตั้งโรงงาน Plant-Based Food โดยโรงงานดังกล่าวคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนกรกฎาคมถึงเดือนสิงหาคม ขณะเดียวกันยังอยู่ระหว่างเจรจากับบริษัท Plant-Based Food แต่อาจจะขนาดบริษัทไม่ใหญ่มาก อย่างไรก็ดีมองว่าตลาดPlant-Based Food ยังเติบโตได้ Single-Digit เทรนด์ของผู้บริโภคก็ยังมีความชอบต่อเนื่อง กับการรักสุขภาพ
*ไตรมาส 2/66 ฟื้นตัวขึ้น
ภาพรวมธุรกิจปีนี้ยังเดินหน้าต่อเนื่องคาดว่ารายได้จะเติบโตกว่า 50% จากธุรกิจทั้งในส่วนของ ผลิตภัณฑ์อาหารไทยอาหารท้องถิ่นและอาหาร Specialty ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์ รวมไปถึงผลิตภัณฑ์อาหารจากพืชกลุ่มลูกค้ารับจ้างผลิต (OEM) ที่ยังมีแนวโน้มเติบโตได้ดี ส่วนผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2566 คาดว่าจะฟื้นตัวได้เชื่อผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2566 ถึงจุดต่ำสุดแล้ว และมีออเดอร์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง
อีกทั้งบริษัทยังเดินหน้าในหลายๆ เรื่อง ของการส่งเสริมเกษตกร ในเรื่องของการทำเกษตรที่มีมูลค่า พร้อมกันนี้ยังให้ความสนใจเรื่องของคาร์บอนเครดิต แต่ขณะนี้ต้องพิจารณารายละเอียดให้รอบคอบ เพราะการ Verify คาร์บอนเครดิตอาจจะมีความยากขึ้น ดังนั้นจึงต้องมีการพิจารณาการลงทุนให้ดี บริษัทยังมั่นใจในกลยุทธ์ที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำอุตสาหกรรมอาหารระดับโลกและการผลิตอาหารเพื่ออนาคต โดยยึดหลักลูกค้าเป็นที่หนึ่งในการรุกตลาดและหัวใจสำคัญของธุรกิจคือ Food for Generations ด้วยวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ผลิตอย่างมีมาตรฐาน ผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อทุกเจเนอเรชั่น ส่งออกไปสู่ผู้บริโภคกว่า 30 ประเทศทั่วโลก