รู้จัก ‘กลุ่มตาลีบัน’ ที่ทำให้ ‘มิ้นท์ I Roam Alone’ กลับไทยไม่ได้
เป็นกระแสติดเทรนด์ร้อนยาวนานข้ามวันกับบล็อกเกอร์สาวนักท่องเที่ยวอย่าง มิ้นท์ มณฑล กสานติกุล เจ้าของเพจ I Roam Alone เดินทางไปอัฟกานิสถานคนเดียวอัฟกานิสถาน และกลับเข้าไทยไม่ได้ เนื่องจากเกิดเหตุมีกลุ่มตาลีบันโจมตีใกล้ๆ สนามบินในเมือง ทำให้เที่ยวบินถูกยกเลิกหมด ต้องรอประมาณ 2-3 วัน ถึงจะเริ่มเดินทางได้อีกครั้ง
จากกระแสข่าวครั้งนี้ “ตาลีบัน” จึงเป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่เราควรรู้จักที่มาที่ไป ว่าทำไมถึงเป็นกลุ่มติดอาวุธที่สามารถทำให้เที่ยวบินต่างๆ ถูกยกเลิกหรือเป็นอันตรายต่ออัฟกานิสถานอย่างไรบ้าง
กลุ่มตาลีบันเริ่มก่อตั้งในพื้นที่ระหว่างปากีสถานกับอัฟกานิสถาน โดยประกาศจะจัดตั้งรัฐบาลของตัวเอง เพื่อนำความสงบและความมั่นคงกลับมา หลังจากสหภาพโซเวียต ถอนกำลังออกจากอัฟกานิสถาน
กลุ่มตาลีบัน เป็นกลุ่มติดอาวุธอิสลาม ที่เคยปกครองอัฟกานิสถานได้มากถึง 90% ก่อนจะถูกโค่นอำนาจโดยกองทัพของสหรัฐฯ กองกำลังพันธมิตร NATO และกองกำลังนานาชาติเมื่อปี 2544 จนกลายเป็นกองกำลังก่อความไม่สงบ ต่อสู้กับรัฐอัฟกานิสถานและกองกำลังสหรัฐฯ นับแต่นั้นเป็นต้นมา
จุดเริ่มต้นสงคราม
จากเหตุการณ์ก่อการร้าย 911 เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2544 จอร์จ ดับเบิลยู. บุช ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ แถลงว่าเหตุก่อการร้ายดังกล่าวเป็นฝีมือของกลุ่มอัลกออิดะห์ ซึ่งมี โอซามา บิน ลาเดน เป็นผู้นำ และกำลังกบดานอยู่ในอัฟกานิสถาน โดยได้รับความช่วยเหลือจากกลุ่มตาลีบัน ซึ่งกลุ่มตาลีบัน ก็ได้เคยช่วยเหลือ คนสำคัญอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์โจมตีสหรัฐฯ 11 กันยายน อีกเช่นเดียวกัน
ตามกฎหมาย AUMF อนุญาตให้รัฐบาลสหรัฐฯ ใช้อำนาจทางการทหารในการไล่ล่าติดตามกลุ่มผู้ก่อการร้ายที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ โดยข้อตกลงดังกล่าวให้อำนาจรัฐบาลกลางของสหรัฐฯ สามารถยกทัพบุกอัฟกานิสถานได้ ซึ่งสงครามระหว่างสหรัฐฯ และกลุ่มกลุ่มตาลีบันตั้งแต่เดือน ต.ค. พ.ศ.2544
กองทัพสหรัฐฯ ใช้เวลาเพียง 2 เดือนก็สามารถเอาชนะกลุ่มตาลีบันได้ ด้วยการทำลายฐานที่มั่นและขับไล่รัฐบาลของกลุ่มตาลีบันออกจากอัฟกานิสถาน เป็นเหตุให้ บิน ลาเดน และสมาชิกกลุ่มอัลกออิดะห์ต้องหลบหนีไปกบดานที่ปากีสถาน
สหรัฐฯ ถอนกำลังออกจากอัฟกานิสถาน
สหรัฐฯ จะลดจำนวนทหารในอัฟกานิสถานลง ให้เหลือเพียง 2,500 นายในช่วงกลางเดือน ม.ค. 2564 ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ กล่าวว่า การถอนกำลังของสหรัฐฯ มีเหตุผล เพราะกองกำลังสหรัฐฯ มั่นใจแล้วว่า อัฟกานิสถาน จะไม่ตกเป็นฐานของนักรบจีฮัดจากต่างประเทศเพื่อวางแผนโจมตีชาติตะวันตกอีกต่อไป
และกองทัพสหรัฐฯ จะถอนกำลังทหารทั้งหมดให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 11 ก.ย. 2564 ซึ่งตรงกับวันครอบรอบ 20 ปีเหตุการณ์วินาศกรรม 911 ส่วนกองกำลัง NATO ที่เหลือก็จะถอนทัพออกจากอัฟกานิสถานเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ รัฐบาลอเมริกันจะให้ความช่วยเหลือกองกำลังความมั่นคงของรัฐบาลอัฟกานิสถาน และสนับสนุนกระบวนการเจรจาสันติภาพต่อไป
สำหรับชาวอัฟกานิสถานแล้ว การทำสงครามกับกลุ่มติดอาวุธตาลีบัน ของกองทัพสหรัฐฯ นาน 20 ปี แทบไร้ความหมาย เพราะเมื่อกองทัพสหรัฐฯ ถอนทหารออกไปเพียงเดือนเดียว กลุ่มตาลีบันก็กลับมายึดครองพื้นที่กว่าครึ่งประเทศได้แล้ว
ตาลีบันเตรียมกลับมา!
สำนักข่าวบีบีซีรายงาน กลุ่มติดอาวุธตาลีบันคืนชีพ ภายในเวลาแค่ 2 เดือนที่ผ่านมา สามารถหวนบุกยึดเมืองและพื้นที่ในชนบทในประเทศอัฟกานิสถานได้นับครึ่งหนึ่งของประเทศแล้ว โดยฉวยจังหวะในขณะที่กำลังทหารต่างชาติและสหรัฐฯ กำลังถอนทหารออกจากอัฟกานิสถาน
แม้เมื่อวันที่ 26 ก.ค. ที่ผ่านมา รัฐบาลอัฟกานิสถานได้ประกาศบังคับใช้มาตรการเคอร์ฟิว ในพื้นที่เกือบทั้งหมดของประเทศ เพื่อพยายามควบคุมการรุกรานของกลุ่มตาลีบัน
แต่สถานการณ์ล่าสุด กลุ่มตาลีบัน ได้เข้ายึดครองจุดยุทธศาสตร์ ในเขตคารักห์ ทางตะวันออกของเมืองเฮราต กลับคืนมาได้อีกครั้ง หลังก่อนหน้านี้ กองกำลังรัฐบาลอัฟกานิสถาน สามารถบุกชิงพื้นที่กลับมาได้ และมีรายงานว่า มีจรวดถูกยิงเข้าใส่สำนักงานสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ทำให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเสียชีวิต 5 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 21 ราย แหล่งข่าวยังเปิดเผยอีกว่า เขตกูซารา ซึ่งเป็นที่ตั้งของสนามบินเฮราต ขณะนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของกองกำลังทหารตาลีบัน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตาม การยึดดินแดนได้มากขึ้น ก็ทำให้ฐานะของพวกตาลีบันแข็งแกร่งขึ้นในการเจรจาต่อรอง และยังสร้างรายได้ในรูปแบบของภาษีอากร และของที่ปล้นสะดมมาจากการทำสงคราม
‘มิ้นท์ I Roam Alone’ จะได้กลับไทยไหม
‘มิ้นท์ I Roam Alone’ ได้โพสต์ไว้ผ่าน เพจ I Roam Alone ก่อนจะถูกลบไว้ว่า ได้ติดต่อกับเพื่อนในสถานทูตอัฟกานิสถานให้เขาเช็คสถานการณ์ให้แล้ว บอกว่าไม่มีอะไรต้องห่วง ไม่มีอะไรรุนแรง และอีก 2-3 วันเครื่องบินจะกลับมาบินตามปกติ
ข้อมูลจาก ไทยรัฐ , BBC , thematter , ข่าวสด , ประชาไท , เพจ I Roam Alone
--------------------
เกาะติดสถานการณ์โควิด-19 ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ
คลิกเลย!! >>> รู้ทันกันโควิด <<< หรือ กด *301*35# โทรออก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง