"Amazon" เลิกจ้างครั้งใหญ่ "วิศวกร" โดนหนักสุด 1,800 คน

สำนักข่าว CNBC รายงานว่า Amazon ยักษ์ใหญ่ค้าปลีกและคลาวด์ของสหรัฐ เดินหน้าปรับโครงสร้างองค์กรต่อเนื่อง โดยการปลดพนักงานครั้งล่าสุดซึ่งมีการ ประกาศเมื่อเดือนที่ผ่านมามากกว่า 14,000 ตำแหน่ง ครอบคลุมแทบทุกสายธุรกิจ ตั้งแต่คลาวด์ อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ โฆษณา ค้าปลีก ไปจนถึงธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ต แต่กลุ่มที่ได้รับผลกระทบหนักกว่ากลุ่มอื่นชัดเจนคือ วิศวกรซอฟต์แวร์ โดยเอกสารแจ้งเลิกจ้างตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานสหรัฐ หรือ WARN ที่ Amazon ยื่นต่อหน่วยงานรัฐในนิวยอร์ก แคลิฟอร์เนีย นิวเจอร์ซีย์ และรัฐวอชิงตัน ที่เป็นฐานใหญ่ ระบุว่าจากจำนวนพนักงานที่ถูกปลดมากกว่า 4,700 คนใน 4 รัฐนี้ เกือบร้อยละ 40 เป็นตำแหน่งด้านวิศวกรรม คิดเป็นมากกว่า 1,800 คน ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนเพียงบางส่วนของการปลดพนักงานทั้งหมดทั่วโลก ซึ่งคาดว่าตัวจริงจะสูงกว่านี้ เนื่องจากแต่ละรัฐมีข้อกำหนดด้านการรายงานไม่เหมือนกัน

การปลดคนรอบนี้ถือเป็นรอบรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา 31 ปี และเกิดขึ้นในจังหวะที่อุตสาหกรรมเทคโนโลยีทั่วโลกก็อยู่ในช่วงหั่นคนแต่กำไรพุ่งเช่นกัน ข้อมูลจากเว็บไซต์ Layoffs.fyi ระบุว่าตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน บริษัทเทคโนโลยี 231 แห่งทั่วโลกปลดพนักงานรวมกันเกือบ 113,000 ตำแหน่ง ต่อเนื่องจากคลื่นปลดคนที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 2022 เมื่อธุรกิจต่าง ๆ ปรับตัวจากยุคโควิดเข้าสู่ภาวะปกติ

แอนดี เจสซี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Amazon เดินหน้าภารกิจเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กรให้ทำงานในรูปแบบสตาร์ตอัปที่ใหญ่ที่สุดในโลกมาหลายปี เป้าหมายคือทำให้องค์กรคล่องตัว ลดขั้นตอนราชการภายใน ลดความซ้ำซ้อนของตำแหน่ง และกดดันให้พนักงานทำงานให้ได้มากขึ้นด้วยทรัพยากรที่น้อยลง 

มุมฝ่ายทรัพยากรบุคคล เบธ กาเล็ตตี ผู้บริหารสาย HR ชี้แจงต่อพนักงานว่าบริษัทต้องการจัดโครงสร้างด้วยการลดชั้นการบังคับบัญชาและเพิ่มความเป็นเจ้าของงานของแต่ละทีม เพื่อให้แข่งขันได้ในยุคเอไอ แม้จะยืนยันว่าเอไอไม่ได้เป็นตัวการหลักของการปลดคนครั้งนี้ แต่ทิศทางใหญ่คือการลดความเทอะทะในระบบภายใน หลังก่อนหน้านี้ ขยายการจ้างงานอย่างรวดเร็ว จนชั้นการอนุมัติและระดับตำแหน่งเพิ่มขึ้นมาก ทำให้การตัดสินใจเชิงธุรกิจล่าช้า 

ขณะที่ Amazon พยายามอธิบายการปลดคนครั้งประวัติการณ์ว่าเป็นการจัดระเบียบองค์กรให้คล่องตัวและพร้อมแข่งในสนามเอไอ นักวิเคราะห์จำนวนไม่น้อยตั้งคำถามว่าการลดทอนกำลังคนด้านวิศวกรรมและนวัตกรรมจำนวนมากในครั้งเดียว อาจกลายเป็นความเสี่ยงระยะยาวต่อขีดความสามารถในการคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ของบริษัทเอง และตอกย้ำภาพใหญ่ที่แรงงานสายเทคโนโลยีทั่วโลกต้องเผชิญ เมื่อเอไอถูกใช้เป็นเหตุผลในการเปลี่ยนสมดุลระหว่าง "คน" กับ "ซอฟต์แวร์" ในองค์กรขนาดใหญ่มากขึ้นเรื่อย ๆ