“ลาฮอร์” อ่วมฝุ่นพิษ AQI พุ่งอันตราย

“ลาฮอร์” เมืองใหญ่เป็นอันดับ 2 ของปากีสถาน เผชิญหมอกพิษหนาแน่นเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) พุ่งสูงถึง 344 ซึ่งถือเป็นระดับ “อันตราย” ต่อสุขภาพของประชากรหลายล้านคน ข้อมูลจากกลุ่ม Swiss IQAir ระบุว่าลาฮอร์เป็นเมืองที่มีมลพิษสูงเป็นอันดับสองของโลก รองจากกรุงเดลี ประเทศอินเดีย สถานการณ์นี้สร้างความเสี่ยงต่อประชาชน โดยเฉพาะผู้ที่ทำงานกลางแจ้ง เช่น พ่อค้าแม่ค้าผลไม้ ผู้ขับรถ และแรงงานก่อสร้าง

หมอกพิษส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนอย่างชัดเจน Fruit vendors หรือพ่อค้าผลไม้กลางแจ้งต้องออกไปตลาดส่งผลไม้ตั้งแต่เช้ามืด แม้ว่าจะป่วยจากหมอกพิษบ่อยครั้ง Mohammad Amir หนึ่งในพ่อค้าผลไม้เล่าว่า “ผมไปตลาดตั้งแต่ 7 โมงเช้า หมอกพิษทำให้คออักเสบ ไอ ระคายเคืองตา ผมเคยป่วยหลายครั้งจนต้องหยุดงาน แต่ก็ยังต้องมาทำงานเพื่อเลี้ยงครอบครัว” ในขณะที่ Khalid Mehmood พ่อค้าผลไม้สูงอายุกล่าวว่า “บางครั้งเราป่วยจนไม่สามารถทำงานได้ มันส่งผลให้ครอบครัวตกอยู่ในความยากจน”

สาเหตุของหมอกพิษในลาฮอร์เกิดจากหลายปัจจัย ทั้งอากาศเย็นหนาแน่นในฤดูหนาว ฝุ่นจากการก่อสร้าง ควันจากยานพาหนะ และไฟจากการเกษตรที่เผาฟางหรือซากพืช โดยสภาพอากาศเย็นจะดักจับมลพิษไว้ใกล้พื้นดิน ทำให้เกิดหมอกพิษหนาแน่นซึ่งกระทบต่อคุณภาพอากาศอย่างรุนแรง รัฐบาลจังหวัดปัญจาบเคยติดตั้งมาตรการชั่วคราว เช่น ปืนพ่นหมอกเพื่อลดฝุ่น แต่พบว่าให้ผลเพียงชั่วคราวเท่านั้น และไม่สามารถปกป้องประชาชนกลุ่มเปราะบางได้