รีเซต

หมอแจงไม่รับรักษา ด.ญ.4ขวบ ป่วยตาบวมอักเสบ เผยย่าเด็กกังวลค่ารักษา

หมอแจงไม่รับรักษา ด.ญ.4ขวบ ป่วยตาบวมอักเสบ เผยย่าเด็กกังวลค่ารักษา
ข่าวสด
4 พฤษภาคม 2563 ( 18:44 )
131
หมอแจงไม่รับรักษา ด.ญ.4ขวบ ป่วยตาบวมอักเสบ เผยย่าเด็กกังวลค่ารักษา

 

วันที่ 4 พ.ค. ที่ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี นายแพทย์มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผอ.รพ. แถลงกรณีข่าวโรงพยาบาลไม่รับรักษาเด็กวัย 4 ขวบ ที่มีอาการตาบวม เปลือกตาปิดไม่สนิท ชาวอำเภอนาตาล จ.อุบลราชธานี

 

โดย ระบุว่า ผู้ป่วยเป็นเด็กหญิงอายุประมาณ 4 ขวบ ย่าพาเข้ามารักษาด้วยเรื่องตาโปน ที่เป็นมาประมาณ 1 เดือน ทำให้ปิดตาไม่สนิทมาราว 1 สัปดาห์ โดยมีใบส่งตัวมาจากโรงพยาบาลประจำอำเภอเขมราฐ และผู้ป่วยมาขึ้นบัตรที่ รพ.สรรพสิทธิประสงค์ เกือบ 11 โมงเช้า หลังพยาบาลถามประวัติ จึงส่งเข้าตรวจที่แผนกจักษุ

 

ต่อมาแพทย์ให้หาสาเหตุโดยการตรวจเอกซเรย์ คอมพิวเตอร์ (ซีที สแกน) และตรวจเลือด มีค่าใช้จ่ายประมาณ 8,000 บาท เนื่องจากบัตรตรวจขึ้นทะเบียนเป็นชำระเงินสดต่างด้าว เพราะเด็กไม่มีเลข 13 หลัก แต่ย่ายืนยันว่า เด็กมีพ่อเป็นคนไทย แม่เป็นคนลาว และไม่ได้ไปแจ้งเกิด จึงไม่มีเลข 13 หลัก

 

เจ้าหน้าที่จึงแนะนำให้ย่าไปตรวจสอบสิทธิ ที่แผนกสังคมสงเคราะห์ ภายในโรงพยาบาล เพื่อให้ช่วยเหลือค่ารักษา แล้วกลับมาที่ห้องตรวจ เพื่อนำใบเจาะเลือดไปตรวจหาสาเหตุ แต่เมื่อย่าพาผู้ป่วยไปที่ห้องเจาะเลือดพบว่า ได้รับคำแนะนำให้ไปคิดค่ารักษา เพื่อนำยอดไปให้สังคมสงเคราะห์พิจารณาช่วยเหลือ หลังจากนั้นไม่พบผู้ป่วยไปที่ห้องเจาะเลือด

 

กระทั่งบ่ายโมงเศษ ๆ เจ้าหน้าที่ที่แผนกตาและนักสังคมสงเคราะห์ได้สอบถามไปที่ห้องเจาะเลือด เพื่อติดตามผล แต่ไม่พบ จึงประกาศเสียงเรียกหาตัวคนทั้งคู่ถึง 4 ครั้ง แต่ไม่มาพบเจ้าหน้าที่ รวมทั้งย่าและหลานไม่มีโทรศัพท์ใช้ติดตามตัวด้วย

 

ต่อมาทราบภายหลังว่า ย่าพาเด็กกลับบ้านที่อำเภอนาตาล เพราะกังวลเรื่องค่ารักษา รวมทั้งเกรงไม่ทันรถที่เดินทางมา ประกอบกับหลานสาวร้องงอแงอยากกลับบ้านด้วย จึงวางแผนติดตามตัวไปที่ รพ.สต.ตามที่อยู่ที่แจ้งไว้ในวันทำการต่อไป แต่พบว่าเป็นข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ก่อน

 

นายแพทย์มนต์ชัย ยืนยันว่า โรงพยาบาลไม่ได้ปฏิเสธการรักษา แต่ต้องแจ้งค่ารักษาพยาบาลไปตามระบบ เมื่อผู้ป่วยไม่สามารถจ่ายได้ จะมีนักสังคมสงเคราะห์เข้ามาประเมินค่าใช้จ่าย แล้วจึงให้การช่วยเหลือ ซึ่งที่ผ่านมาโรงพยาบาลมีระบบตรงนี้ ไว้ช่วยเหลือผู้ป่วยที่จำเป็นต้องได้รับการรักษา

 

ทั้งที่เป็นคนไทยและคนต่างชาติ ไม่ได้เกี่ยงเรื่องของสัญชาติของผู้ป่วยแต่อย่างใด โดยตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมาโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ซึ่งตั้งอยู่ติดกับประเทศเพื่อนบ้านทั้งลาวและกัมพูชา ให้การช่วยเหลือรักษาคนจากประเทศเพื่อนบ้านปีละกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งเป็นที่ทราบดีของประชาชนทั้งสองประเทศที่กล่าวมา

 

สำหรับอาการของเด็กหญิงวัย 4 ขวบ ซึ่งปัจจุบันได้เข้ารับการรักษาและอยู่ในความดูแลของกุมารแพทย์ จักษุแพทย์ และแพทย์สาขาที่เกี่ยวข้องกับโรคที่โรงพยาบาลแล้ว แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดด้านการรักษาของคณะแพทย์

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง