ติดคุกตลอดชีวิต มือทวงหนี้ค่ายาบ้า ไล่ยิงสนั่นเวทีหมอลำซิ่ง ดับ 1 เจ็บ 2 ราย
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 24 ธันวาคม ที่ศาลอาญาจังหวัดอุบลราชธานี ศาลได้มีคำพิพากษาให้ นายไชยันต์ แก้วจุลศรี จำเลยที่ 1 นายวีระศักดิ์ ชาพิภักดิ์ จำเลยที่ 2 และนายเบนต์ จันทร์มานิต จำเลยที่ 4 ในความผิดร่วมกันฆ่าผู้อื่น ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90ซึ่งศาลมองว่ามูลเหตุแห่งคดีนี้จากเรื่องการทวงเงิน แต่กลับใช้ความรุนแรงอย่างไร้เหตุผล แม้กระทั่งผู้ตาย ซี่งไม่มีส่วนสร้างความโกรธแค้นใดๆ ให้แก่จำเลยทั้ง 3 คน ยังร่วมกันใช้อาวุธปืนยิงใส่กลุ่มของผู้ตาย ในทางสาธารณะโดดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง อันเป็นพฤติการณ์ที่บ่งชี้ว่าจำเลยที่ 1, 2 และ 4 ไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ ประพฤติตนเยี่ยงอันตพาล เป็นภัยต่อสังคมอย่างยิ่งจึงสมควรลงโทษสถานหนัก ให้จำคุกตลอดชีวิต แต่ในทางนำสืบของจำเลยและคำรับสารภาพเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาอยู่บ้าง มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้คนละ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลย 33 ปี 4 เดือน และยกฟ้องจำเลยที่ 3 และให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ รวมเป็นเงิน 2 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2562
ทั้งนี้เมื่อเวลา 02.10 น.วันที่ 7 ตุลาคม 2562 มีการจัดงานเลี้ยงโดยมีการจ้างหมอลำซิ่งมาแสดงในงานเพื่อฉลองถ้วยรางวัลชนะเลิศ กีฬาฟุตซอลที่บ้านด่านฮัง หมู่ที่ 8 ต.พังเคน อ.นาตาล จ.อุบลราชธานีต่อมามีกลุ่มวัยรุ่นนั่งรถกระบะและขี่รถจักรยานยนต์มาเที่ยวชมหมอลำซิ่งที่บริเวณในงานโดยมีกลุ่มวัยรุ่น 4 คนพร้อมอาวุธปืนสั้น ตามมาเพื่อทวงหนี้ กับวัยรุ่นที่อยู่ภายในงาน อ้างว่าค่ายาบ้าที่ติดค้าง โดยได้เรียกออกมาคุยกันข้างนอก แต่ไม่ยอมออกมาทำให้กลุ่มวัยรุ่นไม่พอใจ ใช้อาวุธปืนที่เตรียมมายิงใส่ซึ่งกระสุนปืนยิงถูกนายพลากร ต้นเงิน ที่บริเวณชายโครงด้านซ้าย 1 นัดจนต้องวิ่งหลบกระสุน จากนั้นกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวได้ยิงปืนขึ้นฟ้าและยิงเข้าไปในกลุ่มวัยรุ่นที่กำลังกินเหล้าเต้นหน้าเวทีหมอลำซิ่งกันอยู่ เป็นเหตุให้กระสุนปืนถูกนายรัชพล ผาสูงที่บริเวณเท้าด้านขวา 1 นัด นอกจากนี้นายอัครเดช คำผลึก อายุ 24 ปียังถูกลูกหลง โดนยิงเข้าที่บริเวณเบ้าตา ทะลุท้ายทอย ได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกนำส่งโรงพยาบาลนาตาลและเสียชีวิตในเวลาต่อมาหลังก่อเหตุกลุ่มวัยรุ่นได้พากันขึ้นรถกระบะและรถจักรยานยนต์หลบหนี
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้ 4 คน ได้แก่นายไชยันต์ แก้วจุลศรี, นายวีระศักดิ์ ชาพิภักดิ์, นายเบนต์ จันทร์มานิต และนายโชคอำนวย คำภูพูล แจ้งข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา,มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือพาไปในชุมชนที่ได้จัดให้มีขึ้นเพื่อนมัสการการรื่นเริงหรือการอื่นใด”
นายสุวิทย์ คำผลึก พ่อผู้ตาย กล่าวว่า วันนี้รอคอยมา 1 ปี 2 เดือน 17 วัน ผมทนทุกข์ทรมานมาก วันนี้ศาลตัดสิน ศาลได้ให้ความเป็นธรรมกับลูกชาย รู้สึกพอใจที่คืนความยุติธรรรมให้กับลูกชาย แต่อย่างไรก็ตามเตรียมที่จะให้ทนายความได้ยื่นอุทธรณ์คดีเพื่อขอให้ศาลได้พิจารณาเพิ่มโทษเป็นประหารชีวิต