เปิดข้อกฎหมาย "โดนขู่แบล็กเมล์ปล่อยภาพเปลือย" กรรโชกทรัพย์ โทษหนักคุก 10 ปี
เปิดข้อกฎหมาย "โดนขู่แบล็กเมล์ปล่อยภาพเปลือย" กรรโชกทรัพย์ โทษหนักคุก 10 ปี
ไม่ว่าจะเพศไหน หากโดนข่มขู่ ว่าจะเผยแพร่คลิปอนาจาร หรือ เผยแพร่ข้อมูลที่ทำให้เกิดความเสียหายโดยให้ทำอะไรซักอย่างเพื่อที่จะให้ลบคลิป หรือข้อมูล ซึ่งในการข่มขู่ให้กระทำการใดๆ จะมีความผิดในการทำให้เสื่อมเสียเสรีภาพตาม มาตรา 309 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
และถ้าเรียกเงินด้วยก็จะมีความผิดฐาน กรรโชกทรัพย์ ตามมาตรา 337 ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงเจ็ดปี และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงหนึ่งแสนสี่หมื่นบาท แต่ถ้ามีการขู่ว่าจะเปิดเผยความลับแล้วเรียกเงิน ก็จะมีความผิดฐาน รีดเอาทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 338 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น อย่าช้า สามารถดำเนินการตามขั้นตอนดังนี้ เพื่อเข้าแจ้งความได้ทันที
- หลักฐานการโพสหรือการแชร์ ที่ถูกข่มขู่ไว้
- ประวัติการสนทนา หรือบันทึกเสียงตอนที่ถูกข่มขู่
- นำหลักฐานทั้งหมดเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทันที
โดนขู่ แฉคลิปลับ แบล็กเมล์ รีดเอาทรัพย์
โดนขู่ว่าจะเอาภาพลับส่วนตัว ที่แฟนเก่าหรือผู้ใด เคยถ่ายตอนอยู่ด้วยกันไปปล่อยบนโลกออนไลน์ โดยเรียกเงินเพื่อแลกกับการที่จะไม่ทำตามคำขู่จะนำไปประจาน หากไม่ยอมทำตาม ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องอาย แจ้งความดำเนินคดีได้เลย
1.เก็บหลักฐานที่มีคนโพสต์หรือแชร์
ให้ผู้เสียหายรวบรวมพยานหลักฐานที่พบการกระทำความผิด ไม่ว่าจะมีการเผยแพร่ผ่านช่องทางออนไลน์ใดก็ตาม ให้เก็บไว้ว่าใครเป็นคนโพสต์เผยแพร่ให้ปรากฏชัดเจน ส่วนใครที่นำไปแชร์ต่อ ให้เก็บหลักฐานไว้เช่นกัน เนื่องจากมีความผิดทั้งคนโพสต์และคนแชร์
2.เก็บหลักฐานการข่มขู่
ในกรณีที่มีการแบล็กเมล์ ข่มขู่ เรียกร้องทรัพย์สินกับผู้เสียหายผ่านทางโทรศัพท์ ให้บันทึกเสียงไว้ตอนพูดข่มขู่ แต่หากพูดกันตัวต่อตัวต้องหาพยาน
กรณีนี้ มีความผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 338 ผู้ใดข่มขืนใจผู้อื่น ให้ยอมให้ หรือยอมจะให้ตนหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน โดยขู่เข็ญว่าจะเปิดเผยความลับซึ่งการเปิดเผยนั้นจะทำให้ผู้ถูกขู่เข็ญหรือบุคคลที่สามเสียหาย จนผู้ถูกข่มขืนใจยอมเช่นว่านั้น ผู้นั้นกระทำความผิดฐานรีดเอาทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท
และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ พ.ศ.2560 มาตรา 14 (4) นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ ส่วนคนที่แชร์ต่อ จะมีความผิดตามมาตรา 14 (5) เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ตาม (1) (2) (3) หรือ (4)
3.แจ้งความ ณ สถานีตำรวจท้องที่ที่เกิดเหตุ
เมื่อรวบรวมหลักฐานได้แล้วนั้น ทราบเหตุที่ใดสามารถแจ้งความท้องที่ที่เกิดเหตุได้เลย เนื่องจากสถานีตำรวจในท้องที่มีหน้าที่โดยตรงที่จะรับแจ้งความ หรือเดินทางมาร้องทุกข์กล่าวโทษด้วยตนเองที่ บก.ปอท.
ที่มา ประมวลกฎหมายอาญา / สำนักงานกิจการยุติธรรม
ที่มา ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 309, 337 , 338
ที่มา : กระทรวงยุติธรรม