ฝุ่น PM 2.5 พุ่ง 22 จังหวัดเกินเกณฑ์ระดับสีแดง แนะสวมหน้ากากเมื่ออยู่ในที่โล่งแจ้ง
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA ร่วมกับสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ, กรมควบคุมมลพิษ, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เกาะติดสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 แบบรายชั่วโมง
ด้วยข้อมูลจากดาวเทียมผ่านแอปพลิเคชั่น “เช็คฝุ่น” เมื่อเวลา 09.00 น. ของวันที่ 16 มีนาคม 2567 พบ 22 จังหวัดภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ มีค่าฝุ่นเกินเกณฑ์มาตรฐานในระดับสีแดง มีผลกระทบต่อสุขภาพและระบบทางเดินหายใจ ภาคเหนือ อาทิ แม่ฮ่องสอน 209.9 ไมโครกรัม ลำพูน 203.5 ไมโครกรัม เชียงใหม่ 189.8 ไมโครกรัม เชียงราย 174.7 ไมโครกรัม ลำปาง 160.6 ไมโครกรัม พะเยา 159.7 ไมโครกรัม น่าน 142.2 ไมโครกรัม เป็นต้น
ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อาทิ หนองบัวลำภู 104.9 ไมโครกรัม อุดรธานี 90.1 ไมโครกรัม นครพนม 89.6 ไมโครกรัม มุกดาหาร 88.2 ไมโครกรัม สกลนคร 81.6 ไมโครกรัม เป็นต้น
สำหรับพื้นที่กรุงเทพมหานครเช้าวันนี้พบค่าฝุ่น PM2.5 ทุกเขตอยู่ในเกณฑ์คุณภาพอากาศดีมาก
แอปพลิเคชั่น “เช็คฝุ่น” ยังคาดการณ์ปริมาณฝุ่น PM 2.5 ในอีก 3 ชั่วโมงข้างหน้า พบว่าหลายพื้นที่จะมีค่าคุณภาพอากาศที่ยังคงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะโซนเหนือภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ทั้งนี้ ข้อมูลบนแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” มีการใช้เทคโนโลยีดาวเทียมร่วมกับ AI (Artificial intelligence) ในการวิเคราะห์ค่าฝุ่น PM 2.5 แบบรายชั่วโมงในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ร่วมกับการใช้ข้อมูลการตรวจวัด PM 2.5 จากกรมควบคุมมลพิษ, ข้อมูลสภาพอากาศ จากกรมอุตุนิยมวิทยา รวมถึงข้อมูลของแหล่งกำเนิดฝุ่น เช่น จุดความร้อน และข้อมูลที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนมาก มานำเสนอให้ในรูปแบบข้อมูลตัวเลขและค่าสีในระดับต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าใจสถานการณ์ได้ง่ายยิ่งขึ้น
ประชาชนควรสวมหน้ากากตลอดเวลาเมื่ออยู่ในที่โล่งแจ้ง เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจตามมาโดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ทั้งนี้ ท่านสามารถติดตามข้อมูล PM2.5 แบบราย ชั่วโมงเพิ่มเติมผ่านแอปพลิเคชัน "เช็คฝุ่น"
ข้อมูลจาก GISTDA
ภาพจาก TNN ONLINE