รีเซต

คนไทยเครียดเหตุชายแดนไทย-กัมพูชา กว่า 42% เหตุเสพข่าวเกิน 3 ชั่วโมงต่อวัน ทั้งข่าวจริง ข่าวลวง

คนไทยเครียดเหตุชายแดนไทย-กัมพูชา กว่า 42% เหตุเสพข่าวเกิน 3 ชั่วโมงต่อวัน ทั้งข่าวจริง ข่าวลวง
TNN ช่อง16
20 ตุลาคม 2568 ( 02:27 )
7

ซูเปอร์โพล เผยผลสำรวจคนไทย ช่วงวันที่ 15-18 ต.ค.68  พบว่ากว่า 42 % มีความเครียด จากเหตุความรุนแรงไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะคนในพื้นที่ และกลุ่มผู้สูงอายุ  ปัจจัยเกิดจากการเสพข่าวเกิน 3 ชั่วโมงต่อวัน โดยเฉพาะข่าวในโซเชียลฯ มีทั้งข่าวจริง ข่าวลวง


สำนักวิจัยซูเปอร์โพล สถาบันวิจัยความสุขชุมชนและความเป็นผู้นำ เปิดเผยรายงานผลสำรวจเรื่อง ความเครียดคนไทยต่อสถานการณ์ไทย กัมพูชา กลุ่มตัวอย่าง 1,121 คน ระหว่างวันที่ 15-18 ต.ค. 2568 พบประชน 42.1% เครียดมาก–มากที่สุด 27.1% เครียดปานกลาง และ 30.8% เครียดน้อยหรือไม่เครียดเลย ซึ่งหมายความว่า มากกว่า 2 ใน 3ของคนไทยมีความเครียดตั้งแต่ปานกลางไปจนถึงสูง สะท้อนว่า ความขัดแย้งชายแดนไม่ใช่เรื่องไกลตัว


เมื่อพิจารณาพบว่า กลุ่มผู้สูงอายุ (Baby Boomers) มีระดับความเครียดเฉลี่ยสูงที่สุดที่ 6.13 คะแนนจากเต็ม 10 คะแนน กลุ่ม Gen X 5.87 คะแนน Gen Y 5.32 คะแนน และกลุ่ม Gen Z 4.18 คะแนน ความแตกต่างนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนช่องว่างระหว่างวัย แต่ยังสะท้อนความแตกต่างในระดับการรับรู้ ความผูกพัน และประสบการณ์ชีวิตที่เชื่อมโยงกับสถานการณ์ความมั่นคงของชาติ สำหรับคนรุ่นใหญ่ ความขัดแย้งชายแดนไม่ใช่เพียงข่าว แต่คือประสบการณ์ร่วมที่อยู่ในความทรงจำ ความผูกพันกับความเป็นเจ้าของผืนแผ่นดิน ความรู้สึกหวงแหน ความห่วงใยต่อประเทศชาติและลูกหลาน ทำให้เกิดความเครียดสูงกว่าคนรุ่นใหม่ที่มีระยะห่างจากประสบการณ์ตรง



ที่น่าสนใจคือ ความแตกต่างด้านพื้นที่ยิ่งตอกย้ำความจริงข้อนี้ ประชาชนในจังหวัดชายแดนไทย–กัมพูชามีระดับความเครียดเฉลี่ยสูงถึง 6.85 คะแนน ส่วนประชาชนในพื้นที่อื่นมีค่าเฉลี่ย 4.13 คะแนน ความแตกต่างที่มากเกือบสองเท่านี้ สะท้อนว่าระยะทางจากจุดความขัดแย้งมีความสัมพันธ์โดยตรงกับความรู้สึกไม่มั่นคงและความวิตกกังวลของประชาชน ผู้ที่อาศัยอยู่ใกล้พื้นที่ชายแดนไม่ได้มองเหตุการณ์นี้เพียงเป็นข่าว พวกเขารับรู้ความไม่แน่นอนในชีวิตประจำวัน ทั้งความปลอดภัย การประกอบอาชีพ และความสงบในครอบครัว


สำหรับช่องทางข่าวสารที่ผู้คนใช้ติดตามสถานการณ์ซึ่งมีอิทธิพลต่อความรู้สึกโดยตรง 60.8% คือโซเชียลมีเดีย เช่น TikTok, Facebook, LINE และ X ซึ่งมีทั้งข้อมูลจริงและบิดเบือนอย่างรวดเร็ว โทรทัศน์และวิทยุ 34.6% การพูดคุยภายในครอบครัว เพื่อน ชุมชน 27.9% สำนักข่าวออนไลน์ 20.1% และช่องทางอื่น เช่น ราชการหรือหนังสือพิมพ์ 7.9% ทั้งนี้ยังพบว่า ปัจจัยสำคัญของคามเครียดคือรับข่าวความขัดแย้งมากกว่า 3 ชั่วโมงต่อวัน คิดเป็น 57.1% ความแตกแยกภายในสังคมไทยเอง55.3% และปัญหาเศรษฐกิจ ภาระหนี้สินในชีวิตประจำวัน 50.2% การอยู่ใกล้พื้นที่ชายแดน 32.9% และความเชื่อมั่นที่ลดลงต่อการจัดการปัญหาของรัฐ 31.4% 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง