CPANELโลกใหม่ก่อสร้าง พร้อมใหญ่พรีคาสต์ผงาด

ทันหุ้น – CPANEL เดินหน้าขยายกำลังการผลิตเพิ่มเท่าตัว รับดีมานด์ผลิตภัณฑ์แผ่นคอนกรีตสำเร็จรูปที่เพิ่มขึ้นมั่นใจพื้นฐานแกร่งกำแบ็กล็อกกว่า 1,156.03 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ใน 3 ปีข้างหน้า พร้อมรักษามาร์จิ้นระดับ 23% และอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ระดับ 10%
นายชาคริต ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีแพนเนล จำกัด (มหาชน) หรือ CPANEL เปิดเผยว่า จากความมั่นใจและการเห็นดีมานด์ผลิตภัณฑ์แผ่นคอนกรีตสำเร็จรูป (Precast Concrete) ที่เพิ่มขึ้น และกำลังผลิตปัจจุบันที่ใช้อยู่ 70% ทำให้บริษัทเข้ามาระดมทุนและจะนำเงินไปก่อสร้างโรงงานแห่งที่ 2 ซึ่งมีกำลังผลิตอยู่ที่ 7.2 แสนตารางเมตรต่อปี เติบโตเพิ่มขึ้นเท่าตัวเมื่อเทียบกับกำลังผลิตปัจจุบัน และเชื่อว่าโรงงานใหม่น่าจะสร้างการเติบโตได้ไม่ยาก เพราะบริษัทมีเวลาเตรียมตัวก่อนใช้กำลังผลิตโรงงานใหม่ประมาณหนึ่งปีครึ่ง
“บริษัทมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยทิศทางธุรกิจในช่วงไตรมาส 4/2564 บริษัทมีแนวโน้มในการรับงานกลุ่มอสังหาริมทรัพย์แนวราบและแนวสูงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งมีมูลค่างานในมือ (Backlog) ณ 30 มิถุนายน 2564 ที่ 1,156.03 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ใน 3 ปี จึงมั่นใจว่าบริษัทจะรักษาอัตราการเติบโตของรายได้และกำไรให้อยู่ในระดับที่ดีได้” นายชาคริต กล่าว
ขณะที่มั่นใจว่าการเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันนี้ (30 ก.ย.64) จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เนื่องจากมีความมั่นใจในปัจจัยพื้นฐานของบริษัทที่มีโอกาสเติบโตทั้งด้านฐานะการเงิน และผลการดำเนินงาน รวมถึงมีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญในวงการอสังหาริมทรัพย์มานานกว่า 20 ปี
*มาร์จิ้นยืนระดับ 23%
นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวถึงจุดเด่นของ CPANEL ว่า เป็นบริษัทที่มีการวางแผน มีการจัดการ วางแผนลงทุนที่ชัดเจนตั้งแต่ต้น ไม่ว่าจะเป็นการเลือกโมเดลธุรกิจ เลือกใช้เน้นเทคโนโลยี ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่เป็นจุดเด่นในการดำเนินงาน และสะท้อนถึงผลประกอบการ ทำให้ช่วง 5 ปีย้อนหลังของ CPANEL การทำกำไร หรืออัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในระดับ 35% และอัตรากำไรสุทธิทำได้ถึง 12% โดยเฉลี่ยก็อยู่ที่ระดับ 10-12% หากเทียบกับภาคอุตสาหกรรมถือว่ามีกำไรที่สูงมาก ขณะที่ครึ่งปีแรก 2564 บริษัทยังรักษาอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ระดับ 23% และอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ระดับ 10%
นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ CPANEL กล่าวต่อว่า สำหรับความน่าสนใจ CPANEL อีกอย่างหนึ่งคือการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ อัตราการทำกำไรสูง นอกจากนี้เงินลงทุนที่ได้ลงทุนไปก่อนหน้านี้เป็นต้นทุนคงที่ การขยายโรงงานเพิ่มขึ้น ต้นทุนไม่ได้เพิ่มตาม ทำให้เชื่อว่าอัตรากำไรจะปรับตัวสูงขึ้น เมื่อมียอดขายสูง ฉะนั้นผลประกอบการเป็นส่วนหนึ่งที่อยากให้นักลงทุนจับตามอง
ขณะเดียวกันทีมผู้บริหารหรือคุณชาคริต เป็นคนทำงานอยู่ในธุรกิจซีเมนต์มายาวนาน และปัจจุบันออกมาทำ CPANEL ด้วยตันเอง ด้วยมุมมอง วิสัยทัศน์ และสิ่งที่จะมาทดแทนการก่อสร้างแบบดั้งเดิม CPANEL จะเป็นตัวธงที่ผลักดันธุรกิจ
*เคาะพื้นฐาน 9 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุถึง CPANELว่า คาดผลประกอบการปี 2564 โตโดดเด่น 174% เทียบกับปีก่อน และเร่งขึ้นสูง 98% ในปี 2565 และดีต่อเนื่อง 11% ในปี 2566 ทำระดับสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากรายได้ดีดตัวจากฐานต่ำในปี 2563 ขณะที่ทิศทางอัตรากำไรขั้นต้นปรับขึ้นต่อเนื่องในปี 2564-2566 เป็น 37.3%/38.5% และ 39.5% ตามลำดับ อีกทั้งต้นทุนทางการเงินสุทธิจะลดลงจากการปรับโครงสร้างเงินทุนหลังได้รับเงินจากการ IPO โดยนำเงินระดมทุนที่เหลือจากส่วนที่นำไปก่อสร้างโรงงานที่ 2 ไปชำระคืนเงินกู้สถาบันการเงิน ทำให้ภาระหนี้สิน และต้นทุนทางการเงินลดลง
ดังนั้น จึงเลือกประเมินหุ้น CPANEL โดยอิง P/E ที่ 19 เท่า และคาดการณ์ EPS ปี 2565 ที่ 0.48 บาทต่อหุ้น จึงคำนวณได้มูลค่าเหมาะสมตามปัจจัยพื้นฐานปี 2565 ที่ 9.00 บาทต่อหุ้น โดยระดับ Target P/E ดังกล่าวเทียบกับคาดการณ์การเติบโตของกำไรสุทธิของ CPANEL ที่เฉลี่ย 55.0% ในปี 2565-2566 จะคิดเป็น PEG เพียง 0.35 เท่า