คลังประเมินรัฐบาลสูญเสียรายได้ราว 5 หมื่นล้าน จัดตั้ง Thai ESGX พยุงตลาดหุ้น

คลังประเมินรัฐบาลสูญเสียรายได้ราว 5 หมื่นล้าน จากการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี 5 ปี แก่นักลงทุนที่เข้าลงทุนในกองทุน Thai ESGX ที่รัฐบาลอนุมัติจัดตั้งขึ้นมาใหม่เพื่อพยุงตลาดหุ้น ขณะที่ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์เผย ดัชนีหุ้นไทยลดลง 14% นับจากต้นปี เหตุปัจจัยภายนอก มูลค่าตลาดหายไปราว 2 แสนล้าน

#ทันหุ้น นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)ระบุ รัฐบาลจะสูญเสียรายได้จากการลดหย่อนภาษี เพื่อสนับสนุนผู้ลงทุนที่จะเข้าลงทุนในกองทุน Thai ESGX ที่รัฐบาลกำลังจัดตั้งอยู่เพื่อเพิ่มเสถียรภาพตลาดทุนไทยราว 5 หมื่นล้านบาท ระยะเวลา 5 ปี

ทั้งนี้ ประเมินภายใต้สมมติฐานที่ว่า นักลงทุนจะโยกเงินลงทุนราว 1.35 แสนล้านบาท หรือ 75% ของเม็ดเงินลงทุน 1.8 แสนล้านบาทในกองทุน LTF เข้าลงทุนในกองทุน Thai ESGX และรวมถึง เม็ดเงินลงทุนใหม่ที่จะเข้ามาในกองทุนนี้อีกประมาณ 3 หมื่นล้านบาท รวมเป็น 1.65 แสนล้านบาท

นางพรอนงค์ บุษราตระกูล
กรรมการและเลขานุการในคณะกรรมการกำ








กับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

(ก.ล.ต.)กล่าวว่า เชื่อว่า การจัดตั้งกองทุน Thai ESGX นี้ จะช่วยให้นักลงทุนชะลอการขายหน่วยลงทุนในกองทุน LTF เพราะถือว่า มีทางเลือกที่จะลงทุนโดยได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีเป็นระยะเวลา 5 ปี และประเมินว่า จะช่วยสนับสนุนให้ตลาดทุนมีหุ้นกลุ่ม ESG เพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันมีหุ้นกลุ่มนี้ประมาณ 240 ตัว คาดว่า จะเพิ่มขึ้นได้ถึง 300-400 ตัว

ด้านนายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์เตรียมแพลทฟอร์มชื่อ Fund Connect เพื่อให้ผู้ลงทุนในกองทุน LTF เข้าไปตรวจสอบว่า มียอดการลงทุนในกองทุน LTF อยู่จำนวนเท่าใด และอยู่ที่บลจ.ใด เพื่อจะได้ทราบว่า มีเม็ดเงินลงทุนจำนวนเท่าใดและลงทุนไว้ที่ไหนบ้าง ก่อนที่จะตัดสินใจโยกย้ายการลงทุน

ทั้งนี้ ดัชนีตลาดหุ้นไทยที่ปรับลดลงในขณะนี้ เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นทั่วโลก โดยได้รับปัจจัยลบจากสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นจากภายนอก ไม่ใช่ปัจจัยจากภายในประเทศ ทั้งนี้ นับจากต้นปีถึงปัจจุบัน ดัชนีหุ้นไทยได้รับลดลงแล้วราว 14% คิดเป็นเม็ดเงินประมาณ 2 แสนล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(11 มี.ค.)คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติการจัดตั้งกองทุน Thai ESGX เพื่อเป็นทางเลือกการลงทุนใหม่ให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนในกองทุนLTF โดยกองทุนนี้ จะให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเป็นระยะเวลารวม 5 ปี แก่นักลงทุนที่โยกเงินลงทุนจากกองทุน LTFมาลงทุนในกองทุน Thai ESGX และ นักลงทุนรายใหม่ที่เข้ามาลงทุนในกองทุนนี้

สำหรับนักลงทุนรายเก่าที่โยกเงินลงทุนจากกองทุน LTF มาลงทุนใหม่ในกองทุน Thai ESGX จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีในวงเงิน 5 แสนบาท ซึ่งจะเป็นการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีในปี 2568 จำนวน 3แสนบาท จากนั้น จะให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีในปีที่ 2-5 จำนวน 5หมื่นบาทต่อปี ทั้งนี้ นักลงทุนจะต้องโยกเงินลงทุนใน LTF ทั้งหมดมาไว้ในกองทุน Thai ESGX

ส่วนนักลงทุนรายใหม่ที่จะมาลงทุนในกองทุน Thai ESGX นั้น จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีในวงเงิน 3 แสนบาท แต่มีเงื่อนไขว่า จะต้องลงทุนครั้งเดียวภายในเดือนพ.ค.-มิ.ย.นี้