รู้จักยาเม็ด "Paxlovid" รักษาโควิดได้ทุกสายพันธุ์ โดยเฉพาะ “โอมิครอน”
วันนี้ ( 20 ม.ค. 65 )บริษัท ไฟเซอร์ เผยผลการศึกษาในห้องทดลอง ยาเม็ด "Paxlovid" 3 ชิ้น ว่า "แพ็กซ์โลวิด" (Paxlovid) ยาเม็ดรักษาโควิด มีประสิทธิภาพในการจัดการเชื้อไวรัสโคโรนากลายพันธุ์ สายพันธุ์ "โอมิครอน" โดยหนึ่งในผลการศึกษาพบว่า Nirmatrelvir ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของ "Paxlovid" มีประสิทธิภาพยับยั้งการทำงานของเอมไซม์ในเชื้อไวรัสโคโรนา ที่จะใช้ในการจำลองตัวและเพิ่มจำนวนเชื้อไวรัสได้ ทั้งในสายพันธุ์กลายพันธุ์อโอมิครอน และสายพันธุ์ดั้งเดิม
ขณะนี้ยังเหลือผลการศึกษาอีก 2 ชิ้น ที่ศึกษาการทำงานของ "Paxlovid" และปริมาณที่จำเป็น ที่ต้องใช้จัดการเชื้อ "โอมิครอน" และเชื้อกลายพันธุ์อื่น ๆ ก่อนหน้านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผู้บริหารระดับสูงของ Pfizer เผยผลการศึกษาเบื้องต้นเมื่อช่วงปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ว่า ยาเม็ด "Paxlovid" มีประสิทธิภาพในการลดความเสี่ยงที่จะเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลหรือเสียชีวิต ภายหลังติดโควิดสูงถึง 89%
ด้าน ดร.แอนโทนี เฟาชี ที่ปรึกษาด้านการแพทย์ของทำเนียบขาว กล่าวว่า ยาเม็ดรักษาโควิด "Paxlovid" จาก Pfizer รวมถึง Molnupiravir จาก Merck จะมีส่วนสำคัญในการช่วยจัดการกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดภายในสหรัฐฯ ในขณะที่วิธีการอื่น ๆ ที่ใช้จัดการกับเชื้อไวรัสต่างเป็นไปอย่างยากลำบาก ส่วนการฉีดวัคซีนยังคงเป็นวิธีการที่จะช่วยยับยั้งการแพร่ระบาดของโรค รวมถึงลดความเสี่ยงที่จะเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลหรือเสียชีวิตได้มีประสิทธิภาพมากที่สุด
ทั้งนี้ สำนักงานอาหารและยาของสหรัฐฯ หรือ เอฟดีเอ ได้อนุมัติการใช้ยาเม็ด "Paxlovid" ของบริษัท ไฟเซอร์ เพื่อรักษาผู้ป่วยโควิด-19 เป็นกรณีฉุกเฉิน นับเป็นยาต้านไวรัสโควิด-19 ชนิดเม็ดตัวแรก ที่ผู้ป่วยสามารถทานเองที่บ้าน โดยกลุ่มผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอายุมากกว่า 12 ปีขึ้นไป จะได้รับยา "Paxlovid" ไปทานที่บ้าน โดยต้องให้แพทย์เป็นผู้สั่งยาดังกล่าว
เบื้องต้นสหรัฐฯ ได้สั่งซื้อยาเม็ดชนิดนี้แล้ว 20 ล้านคอร์ส คาดว่าจะส่งมอบยาทั้งหมดภายในปีนี้ โดย เอฟดีเอ ได้อนุมัติการใช้ยาเม็ด "Paxlovid" เป็นกรณีฉุกเฉินได้ เริ่มทยอยส่งมอบแล้วแต่ยังมีปริมาณน้อยมาก เมื่อเทียบกับผู้ติดเชื้อรายใหม่ในสหรัฐฯ ที่ติดเชื้อเพิ่มกว่า 20,800 รายต่อวัน ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
เอฟดีเอ ระบุว่า ผู้ป่วยจะต้องได้รับยา"Paxlovid" ทันทีที่ถูกพบว่าติดเชื้อโควิด-19 และต้องได้รับยาในช่วงที่มีอาการ 5 วันแรก ซึ่งยา "Paxlovid" ประกอบไปด้วยยาต้านไวรัสตัวใหม่ชื่อ เนอร์มาเทรลเวียร์ กับยาตัวเก่าชื่อ ริโทนาเวียร์ และผู้ป่วยต้องทานยาติดต่อกันเป็นเวลา 5 วัน โดยบริษัท ไฟเซอร์ พบว่า ยา"Paxlovid" ช่วยลดความเสี่ยงการในการเข้ารักษาที่โรงพยาบาลและอัตราการเสียชีวิตได้ราว 89 เปอร์เซ็นต์ หากผู้ป่วยได้รับยาดังกล่าว เมื่อเริ่มมีอาการป่วยโควิดในช่วงแรก
ภาพจาก : AFP