"เอสซีบี เอกซ์"ยื่นไฟลิ่งต่อ ก.ล.ต.แล้ว ตั้งบล.เกียรตินาคินภัทรเป็นที่ปรึกษาฯ
#SCB #ทันหุ้น-บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด(มหาชน) ได้ยื่นแบบไฟลิ่งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แล้ว ซึ่งได้ระบุในแบบไฟลิ่งว่า ประสงค์จะเสนอขายหลักทรัพย์ จำนวน 3,399.19 ล้านหุ้น ต่อผู้ถือหลักทรัพย์ของธนาคาร ไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน) หรือ SCB ในอัตราการแลกหลักทรัพย์เท่ากับ 1:1 ตั้งแต่วันที่ 2 มี.ค. ถึง 18 เม.ย. 2565 โดยได้แต่งตั้งให้บล.เกียรตินาคินภัทร เป็นที่ปรึกษทางการเงิน ซึ่งจัดทำแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ พร้อมการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์
ในแบบไฟลิ่งระบุว่า ตามที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของธนาคารไทยพาณิชย์ ได้มีมติเห็นชอบให้อนุมัติแผนการปรับโครงสร้างการถือหุ้น และการดำเนินการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยธนาคารได้ดำเนินการให้มีการจัดตั้งบริษัทมหาชนจำกัด คือบริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด(มหาชน) เพื่อประกอบธุรกิจเป็นบริษัทลงทุนหรือโฮลดิ้ง คอมปานี โดยภายหลังจากที่แผนการปรับโครงสร้างการถือหุ้นได้รับการอนุญาตเบื้องต้นจากตลาดหลักทรัพย์ และบริษัทได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรวมถึงได้รับอนุญาตจากสำนักงาน ก.ล.ต. ให้เสนอขายหุ้นที่ออกใหม่แล้ว บริษัทจะทำคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดของธนาคารจากผู้ถือหุ้นของธนาคาร โดยการออกและเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนหุ้นสามัญและหุ้นบุริมสิทธิของธนาคาร ในอัตราการแลกหลักทรัพย์เท่ากับ 1 หุ้นสามัญของธนาคาต่อ 1 หุ้นสามัญของบริษัทและ 1 หุ้นบุริมสิทธิของธนาคาร ต่อ 1 หุ้นสามัญของบริษัท
ภายหลังจากหลักทรัพย์ของเอสซีบี เอกซ์ เข้าจดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และธนาคารแห่งประเทศไทยอนุมัติแผนการปรับโครงสร้างหรือการจ่ายเงินปันผลที่เกี่ยวข้องแล้ว ธนาคารจะโอนย้ายบริษัทย่อยและโอนธุรกิจบัตรเครดิตและธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของแผนการปรับโครงสร้างการถือหุ้นของธนาคาร
โดยธนาคารจะดำเนินการโอนหุ้น ซึ่งธนาคารถือในบริษัทย่อย ทั้งทางตรงและโดยอ้อม ให้แก่บริษัทหรือบริษัทย่อยของบริษัท เพื่อให้โครงสร้างเป็นไปตามโครงสร้างของกลุ่มและธนาคารจะโอนธุรกิจบัตรเครดิตและธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน ให้แก่บริษัทย่อยที่จะจัดตั้งขึ้นใหม่ของบริษัท โดยบริษัทจะถือหุ้นในบริษัทย่อยดังกล่าว 99.99% เพื่อมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจบัตรเครดิตและธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน
การปรับโครงสร้างการถือหุ้นดังกล่าว เพื่อความคล่องตัวในการขยายธุรกิจไปยังธุรกิจการเงินอื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและความแข็งแกร่งให้กลุ่มธุรกิจทางการเงินของไทยพาณิชย์ รวมถึงเพื่อเพิ่มความชัดเจนในการทำธุรกิจ ให้สามารถขยายและพัฒนาธุรกิจได้อย่างเต็มที่ และให้เข้าถึงลูกค้าได้ตรงกลุ่มเป้าหมายและกว้างมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม การปรับโครงสร้างการถือหุ้นและการขออนุญาตดังกล่าว ไม่รวมถึงการลงทุนในบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด หรือ Bitkub Online ที่บล.ไทยพาณิชย์ จำกัด จะซื้อหุ้นของ Bitkub Online จากบริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ในสัดส่วน 51% คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 17,850 ล้านบาท โดยมีวัตถุประสงค์เป็นการลงทุนระยะยาว เพื่อเข้าสู่ธุรกิจ Digital Asset อันจะเป็นหนึ่งในธุรกิจที่บริษัทฯ จะมุ่งเน้นในยุทธศาสตร์ระยะยาวของกลุ่ม ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการสอบทานธุรกิจ (Due Diligence) ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จ และจะยื่นคำขอกับ ธนาคารแห่งประเทศไทยในการลงทุนใน Bitkub Online ภายในเดือนกุมภาพันธ์ และ SCBS จะลงทุนใน Bitkub Online ได้ก็ต่อเมื่อธนาคารแห่งประเทศไทยอนุมัติแล้วเท่านั้น หรือการลงทุน และ/หรือการจัดตั้งบริษัทอื่นๆ ที่อาจเกิดในอนาคต