ผ่านไปสามวัน ยังไม่รู้ชะตากรรม น้องชมพู่ 3 ขวบ หายตัวปริศนา
ผ่านไปสามวัน ยังไม่รู้ชะตากรรม น้องชมพู่ 3 ขวบ หายตัวปริศนา ระดมปูพรมค้นหาป่าเขาภูพาน เชิญร่างทรงทุกสำนักทำพิธีความเชื่อ
เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.มุกดาหาร ความคืบหน้าล่าสุด กรณีมีผู้ปกครอง และญาติ ออกมาเผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อ กรณี น้องชมพู่ เด็กหญิง อรวรรณ วงศ์ศรีชา อายุ 3 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73 หมู่ 2 บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร หายตัวปริศนา ไปจากบ้านพัก
ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 11 พฤษภาคม 2563 ขณะพ่อแม่ คือ นายอนามัย วงศ์ศรีชา อายุ 45 ปี พร้อมภรรยา คือ นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา อายุ 40 ปี ออกไปไปทำงานที่ไร่ จึงปล่อยให้ น้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ อยู่กับพี่สาว อายุ 13 ขวบ
จากนั้น ได้เดินเล่นบริเวณรอบบ้าน และหายตัวปริศนา ไม่มีใครพบเห็น จนกระทั่งผ่านไปหลายชั่วโมง ทาง พ่อแม่ และญาติพี่น้อง จึงประสานเจ้าหน้าที่ ช่วยตรวจสอบค้นหา
ภายหลังเกิดเหตุ ทางด้าน นายชัชวาลย์ ทองชน นายอำเภอดงหลวง ได้ประสานงานร่วมกับ นายนิยม ชาวเขา อายุ 48 ปี นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลกกตูม อ.ดงหลวง นายนิ่ม เงินงาม อายุ 42 ปี ผู้ใหญ่บ้านกกกอก หมู่ 2 ได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูผายล
รวมถึง ผู้นำชุมชนท้องถิ่น จิตอาสา ระดมช่วยกันค้นหา ในพื้นที่ป่าสวนยาง ไร่มัน รวมถึงพื้นที่ป่าเขาภูพานน้อย ที่ติดหมู่บ้าน ในรัศมีกว่า 5 กิโลเมตร ซึ่งได้ใช้วิธีการเดินค้นหาแบบปูพรม เป็นเวลากว่า 3 วัน
รวมถึง ตรวจสอบ ตามแหล่งน้ำ แต่ยังไม่พบร่องรอยเบาะแสการสูญหาย ซึ่งทางญาติพี่น้อง และเจ้าหน้าที่ ยังมีความหวัง ว่าน้องจะยังมีชีวิต
ส่วนหนึ่งได้มีการนำร่างทรง เจ้าสำนัก พระเกจิ อาจารย์ ในพื้นที่ มาประกอบพิธีประเพณีความเชื่อ เพื่อบอกกล่าว ขมา เจ้าป่าเจ้าเขา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ให้เปิดทาง และช่วยเหลือคุ้มครอง แต่ยังไร้วี่แวว แต่ยังมีการค้นหาต่อเนื่อง
นายอนามัย วงศ์ศรีชา อายุ 45 ปี พ่อน้องชมพู่ เล่าว่า เมื่อเช้าวันที่ 11 พฤษภาคม 2563 หลังจากตื่นนอน มาช่วงเช้าเวลาประมาณ 7 โมง ตนและภรรยา ได้เตรียมออกไปดูสวน เพื่อทำการเกษตร เป็นปกติทุกวัน
ซึ่งตนมีลูกสาว 2 คน คนโต อายุ 13 ขวบ ส่วนน้องชมพู่ 3 ขวบ จะดูแลน้อง ตลอดทุกวัน หลังพ่อแม่ไปทำงาน แต่หลังจาก ตนและภรรยา กลับมาจาก ทำไร่ ช่วงสายๆ สอบถามลูกสาวคนโต บอกว่า น้องเดินเล่นไปมารอบบ้าน แต่ไม่รู้เดินหายไปไหน ทีแรกคิดว่าเดินไปในหมู่บ้าน จึงช่วยกันค้นหา แต่เวลาผ่านไปหลายชั่วโมงผิดปกติ จึงไม่สบายใจ ก่อนประสานเจ้าหน้าที่ มาช่วยตรวจสอบค้นหา เวลาผ่านไป 3 วันยังไม่พบวี่แวว ไร้ร่องรอย เป็นปริศนา ซึ่งตนยังมีความหวัง และเชื่อว่าลูกสาวยังมีชีวิตอยู่
ส่วนหนึ่งให้น้ำหนักไปที่พลัดหลงเข้าไปในป่า แต่ยังไม่มั่นใจ เพราะปกติ น้องชมพู่ไม่เคยเดินไปไกลจากบ้าน และยากที่จะเดินคนเดียวพลัดหลงเข้าไปในป่า สำหรับประเด็นการลักพาตัว หรือมีคนนำตัวไป คิดว่าเป็นเรื่องยาก เพราะในพื้นที่ไม่เคยมีปัญหา รวมถึงอยู่กับพี่สาว หากมีคนมาพาตัวไปหรือมาอุ้มไป น่าจะพอมีคนเห็น
รู้สึกแปลกใจมาก ห่วงลูกสาว เกรงว่าจะเกิดอันตราย ส่วนแหล่งน้ำในละแวกนี้ มีเพียงห้วยจุดเดียว แต่ไกลจากบ้านเกิดเหตุพอสมควร และน้ำน้อย คงยากที่จะเดินไปพลัดตกลำห้วย
อย่างไรก็ตามมาถึงตอนนี้ สิ่งเดียวที่ขอความช่วยเหลือได้ คือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ภาวนาให้ลูกปลอดภัย