รีเซต

จับตา PTTEP ประกาศงบพรุ่งนี้ โบรกฯ คาดกำไร Q4/66 ที่ราว 1.6-1.7 หมื่นลบ.

จับตา PTTEP ประกาศงบพรุ่งนี้ โบรกฯ คาดกำไร Q4/66 ที่ราว 1.6-1.7 หมื่นลบ.
ทันหุ้น
29 มกราคม 2567 ( 12:26 )
48

#PTTEP #ทันหุ้น-บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด(มหาชน) หรือ PTTEP เตรียมประกาศงบการเงินในปี 2566 และงวดไตรมาส 4/66 ในวันพรุ่งนี้ (30 ม.ค.67) ซึ่งโบรกเกอร์คาดว่ากำไรไตรมาส 4/66 จะอยู่ที่ราว 1.6-1.7 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน แต่ลดลงจากไตรมาสก่อน ส่วนกำไรทั้งปี 2566 จะอยู่ที่ราว 7-8 หมื่นล้านบาท เติบโตจากปี 2565 พร้อมประเมินแนวโน้มในปี 2567 ยังเป็นทิศทางที่ดี 

 

บล.ทรีนีตี้ คาด PTTEP ในไตรมาส 4/66 จะมีกำรไสุทธิอยู่ที่ 1.7 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% จากช่วงเดียวกันปีก่อน แต่ลดลง 8% จากไตรมาสก่อน ซึ่งในไตรมาสนี้มี Non Recuring item สุทธิที่เป็นขาดทุนราว 3.5 พันล้านบาท ถ้าไม่นับรายการดังกล่าว กำไรจากการดำเนินงานปกติจะอยู่ราว 2 หมื่นล้านบาท ลดลง 25% จากช่วงเดียวกันปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 7% จากไตรมาสก่อน โดยกำไรที่ลดลง จากราคาก๊าซและน้ำมันที่ปรับลดลง ส่วนกำไรที่เพิ่มขึ้นจากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น และ Tax rate ที่ลดลง ส่วนกำไรสุทธิทั้งปี 2566 คาดว่าอยู่ที่ 75,077 ล้านบาท 

 

ส่วนในปี 2567 ฝ่ายวิจัยทรีนีตี้ คาดว่าจะมีกำไรสุทธิที่ 84,911 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% ด้วยปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นจากโครงการ G1/61 และยังมี upside จากโครงการ Offshore Wind ที่บริษัทเพิ่งเข้าไปลงทุน คาดว่าจะเริ่มรับรู้กำไรในช่วงไตรมาส 3/67 ราว 5-15 ล้านเหรียญต่อไตรมาส สำหรับไตรมาส 1/67 คาดว่าปริมาณขายจะยังทรงตัว แต่จะเพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาส 2/67 ที่โครงการ G1/61 จะสามารถผลิตได้ตามสัญญาที่  800 MMCFD 

 

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำซื้อเก็งกำไร ให้ราคาเป้าหมายที่ 164 บาท โดยประเมินแนวโน้มราคาน้ำมันในไตรมาส 1/64 ยังอยู่ในทิศทางที่แข็งแกร่ง 

 

บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย)  คาดว่า PTTEP ในไตรมาส 4/66 จะมีกำไรสุทธิที่ 16,582 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.2% จากช่วงเดียวกันปีก่อน แต่ลดลง 8.4% จากไตรมาสก่อน เนื่องจากมีการบันทึกการด้อยค่าสินทรัพย์จากโครงการโมซัมบิกและโอลิเวอร์ อย่างไรก็ตาม กำไรจากการดำเนินงานปกติยังปรับตัวขึ้นได้ จากปริมาณการขายและราคาขายก๊าซ 

 

ส่วนกำไรทั้งปี 2566 คาดว่าอยู่ที่ 75,002 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.8% ซึ่งแนะนำซื้อ ให้ราคาเป้าหมายที่ 175 บาท โดยคาดว่าทิศทางราคาน้ำมันจะยังทรงตัวได้ และปริมาณการผลิตที่จะทยอยเพิ่มขึ้นจากแหล่งเอราวัณเป็นปัจจัยหนุน 

 

บล.เคจีไอ(ประเทศไทย) คาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 4/66 ของ PTTEP อยู่ที่ 1.74 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% จากช่วงเดียวกันปีก่อน แต่ลดลง 4% จากไตรมาสก่อน โดยกำไรที่ลดลง เพราะมีผลขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์ประมาณ 125 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเกิดจากการเลื่อนกำหนด COD ของโครงการโมซัมบิกออกไปหนึ่งปีเป็นครึ่งแรกของปี 2571 แม้ว่าบริษัทบริษัทจะบันทึกกำไรพิเศษประมาณ 60 ล้านดอลลาร์จากการขายโครงการสำรวจปิโตรเลียม Cash & Maple ออกไปในไตรมาส 4/66  แต่หากไม่รวมรายการพิเศษ คาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักในไตรมาส 4/66 จะลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และไตรมาสก่อน เนื่องจากต้นทุนต่อหน่วยเพิ่มขึ้น และราคาน้ำมันดิบลดลง 

 

ฝ่ายวิจัยเคจีไอ ได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2566 ขึ้นอีก 3% เป็น 7.58 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะทำสถิติสูงสุดใหม่ เพราะได้ปรับเพิ่มกำไรพิเศษประมาณ 60 ล้านดอลลาร์ จากการขายโครงการสำรวจปิโตรเลียม  Cash & Maple  และยังได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2567 และปี 2568 ขึ้นอีก 1% เป็น 6.40 หมื่นล้านบาท และ 5.51 หมื่นล้านบาท ตามลำดับ จากการลงทุนล่าสุดในโครงการพลังงานลม ที่ได้แจ้งตลาดว่าได้เข้าไปซื้อหุ้น 50% ใน TotalEnergies Renewables Seagreen Holdco Ltd (TERSH) ซึ่งถือหุ้น 51% ในโครงการ Seagreen Offshore Wind Farm ดังนั้น PTTEP จึงจะถือหุ้นทางอ้อม 25.5% ในโครงการนี้ ซึ่งตั้งอยู่ใน Scotland ประเทศอังกฤษ

 

โดยโครงการนี้มีกังหันลม 114 ต้น กำลังการผลิตรวม 1.1GW (กำลังการผลิตสุทธิของ PTTEP 280MW) และเริ่มเปิดดำเนินการเต็มที่ในเดือนตุลาคม 2566 

 

ฝ่ายวิจัยเคจีไอฯ แนะนำถือหุ้น PTTEP โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 165 บาท 

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง